การพัฒนารูปแบบการแสดงหมอลำหมู่เชิงธุรกิจ

Main Article Content

Sirichai Tupkhwa
Somkhit Suk-erb

บทคัดย่อ

          การวิจัยเรื่องการพัฒนารูปแบบการแสดงหมอลำหมู่เชิงธุรกิจ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษา 1) เพื่อศึกษาความประวัติความเป็นมาของหมอลำหมู่ 2) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาของรูปแบบการแสดงหมอลำหมู่เชิงธุรกิจในปัจจุบัน และ 3) เพื่อศึกษาแนวทางพัฒนารูปแบบการแสดงหมอลำหมู่เชิงธุรกิจ ผู้วิจัยได้เลือกพื้นที่จากคณะหมอลำหมู่ 3 ทำนองคือทำนองขอนแก่น เลือกคณะรัตนศิลป์อินตาไทยราษฎร์ และคณะหนูภารวิเศษศิลป์ ทำนองกาฬสินธุ์ มหาสารคามเลือก คณะศิลปิน การวิจัยเรื่องการพัฒนารูปแบบการแสดงหมอลำหมู่เชิงธุรกิจ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษา 1) เพื่อศึกษาความประวัติความเป็นมาของหมอลำหมู่ 2) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาของรูปแบบการแสดงหมอลำหมู่เชิงธุรกิจในปัจจุบัน และ 3) เพื่อศึกษาแนวทางพัฒนารูปแบบการแสดงหมอลำหมู่เชิงธุรกิจ ผู้วิจัยได้เลือกพื้นที่จากคณะหมอลำหมู่ 3 ทำนองคือทำนองขอนแก่น เลือกคณะรัตนศิลป์อินตาไทยราษฎร์ และคณะหนูภารวิเศษศิลป์ ทำนองกาฬสินธุ์ มหาสารคามเลือก คณะศิลปินภูไท และคณะเพชรแพรวา ทำนองลำเพลินเลือกคณะสาวน้อยเพชรบ้านแพง และคณะบัวริมบึง  เป็นแหล่งในการเก็บรวบรวมข้อมูล นำเสนอผลการวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูลตามความมุ่งหมายของการวิจัย โดยการพรรณนาวิเคราะห์


           ผลการวิจัยพบว่า 1) ประวัติของเป็นมาของหมอลำหมู่มีประวัติความเป็นมายาวนาน พัฒนามาจากการอ่านหนังสือผูกที่ใช้สำหรับจารวรรณกรรมคำสอนอีสาน และนำมาใส่ทำนองเพื่อให้เกิดความไพเราะ  ผลการวิจัยพบว่า 1) ประวัติของเป็นมาของหมอลำหมู่มีประวัติความเป็นมายาวนาน พัฒนามาจากการอ่านหนังสือผูกที่ใช้สำหรับจารวรรณกรรมคำสอนอีสาน และนำมาใส่ทำนองเพื่อให้เกิดความไพเราะ 2) ปัญหาของรูปแบบการแสดงหมอลำหมู่ขาดการจัดการที่เป็นระบบเนื่องจากสมาชิกในวงไม่มีประสบการณ์ และความชำนาญทั้งในการร้องและการลำ การเจ็บป่วยของสมาชิกในวงที่เกิดจากการทำงานต่อเนื่อง หรือความทันสมัยของอุปกรณ์การแสดง รวมไปถึงภัยทางธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า 3) แนวทางพัฒนารูปแบบการแสดงหมอลำหมู่เชิงธุรกิจ ต้องประยุกต์วัฒนธรรมการแสดงที่มีอยู่เดิมเข้ากับสมัยใหม่มากขึ้นเพื่อสร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่ให้แก่ผู้ชม ปรับเวที ชุดการแสดง อุปกรณ์ประกอบฉากให้เข้ากับเนื้อเรื่องที่แสดงและง่ายต่อการเก็บรักษารวมไปถึงการขนย้ายไปยังสถานที่ต่างๆ วรรณกรรมคำกลอนเน้นการนำวรรณกรรมคำกลอนพื้นบ้านอีสานมาใช้แสดง เรื่องที่นำมาแสดงควรสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ตามจารีตประเพณีสื่อถึงผู้ชมผู้ฟังเกิดความสมัครสมานสามัคคีในสังคมอีสาน  การพัฒนาแบบท่าเต้น หัวใจหลักคือครูผู้สอนเต้นต้องเข้าใจหลักของวัฒนธรรมร่วมสมัยและมีการพลิกแพลงได้อยู่ตลอดเวลาให้เข้ากับสถานการณ์ การบริหารจัดการวง มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบให้ชัดเจน มีการบริหารจัดการรายได้ที่ทันสมัย นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์เข้ากับการบริหารรายได้ของวงมีการบันทึกข้อมูลรายรับ รายจ่าย ในแต่ละงาน และที่สำคัญมีการบันทึกการแสดงแล้วเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลมีเดียเพื่อสร้างรายได้เพิ่มจากช่องทางดังกล่าว


          แนวทางในการพัฒนาดังกล่าวนี้เป็นการแนะนำจากผู้วิจัยที่นำปัญหาที่แต่ละคณะพบเจอนั้นมาหาแนวทางแก้ไขในเบื้องต้น แต่ในทางปฏิบัติแล้วนั้นผู้บริหารหัวหน้าคณะหมอลำคงมีทางออกในการแก้ปัญหาที่ดีอยู่แล้วด้วยความที่มีประสบการณ์ในการทำคณะหมอลำมานาน แนวทางในการพัฒนาดังกล่าวนี้เป็นการแนะนำจากผู้วิจัยที่นำปัญหาที่แต่ละคณะพบเจอนั้นมาหาแนวทางแก้ไขในเบื้องต้น แต่ในทางปฏิบัติแล้วนั้นผู้บริหารหัวหน้าคณะหมอลำคงมีทางออกในการแก้ปัญหาที่ดีอยู่แล้วด้วยความที่มีประสบการณ์ในการทำคณะหมอลำมานาน

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
Tupkhwa, S., & Suk-erb, S. (2019). การพัฒนารูปแบบการแสดงหมอลำหมู่เชิงธุรกิจ. วารสารกระแสวัฒนธรรม, 20(37), 25–36. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/cultural_approach/article/view/184049
ประเภทบทความ
Research Article

เอกสารอ้างอิง

[1] Baumgarten, A. (1954). Meditationes Philosophicae De Nonnullis Ad Poema Pertininentibus, In Aschenbrenner, T. R. K. & Holther, W. B. (eds). Reflections on Poetry. Berkeley: University of California Press.

[2] Nasusin, Surapon. (2007). Development of Lam Ruang Tor Klon Performance in Khon Kaen Styled, Rabeabwatasin Band, Khon Kaen Province. Mahasarakham University.

[3] Sanpradit, Kitisak. (2009). Guidelines for Isan Lam Ruang Tor Klon Performance Potential Development Appropriate to Culture and Economy. Ph. D. Thesis in Cultural Science, Mahasarakham University.

[4] Ubollert, Supawan. (2007). Development Models of Disseminating Isan Folk Arts, Culture, Music and Performance of the Dramatic Art Colleges. Ph. D. Thesis in Cultural Science, Mahasarakham University.

[5] Thammawat, Jaruwan. (1983). Folklore. Bangkok : Aksorn Watthana.

[6] William, P. (1977). Music Culture of the Pacific, the Near East, and Asia. 2nd ed. Englewood, New Jersey: Prentice Hall Inc.