การศึกษาสภาพวัฒนธรรมมอญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของกลุ่มมอญ ในอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อการจัดการการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน

Main Article Content

อัญชัญ ตัณฑะเทศ
วาสินี ไขว้พันธุ์
และ คณะ

บทคัดย่อ

          การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพวัฒนธรรมของกลุ่มมอญกับการจัดการการท่องเที่ยว ประกอบกับศึกษาลักษณะการมีส่วนร่วมของกลุ่มมอญต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย แบบสังเกตและแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง (Semi-structured Interview) โดยกลุ่มตัวอย่าง คือ กลุ่มบุคลากรที่ให้ข้อมูล กลุ่มผู้นำ กลุ่มผู้ช่วย กลุ่มผู้รู้ และกลุ่มผู้สังเกตการณ์ และชาวบ้านที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการการท่องเที่ยวในอำเภอสังขละบุรีซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่เป็นเวลามากกว่า 10 ปีขึ้นไป มีจำนวน 30 ราย ที่เลือกอย่างเจาะจง (Purposive Sampling)


          ผลการวิจัยพบว่า ปัจจุบันเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของกลุ่มมอญกลายเป็นจุดดึงดูดใจและกลายเป็นสินค้าทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอสังขละบุรี กลุ่มมอญมีส่วนร่วมในการจัดการการท่องเที่ยวในลักษณะของการรับจ้างต่างๆ และการผลิตและขายสินค้าที่ระลึก แต่ธุรกิจประเภทที่พักและบริการต่างๆจะถูกดำเนินการโดยชาวไทยที่มีสิทธิในการประกอบอาชีพที่ถูกต้องตามสิทธิทางกฎหมายของประเทศไทยในส่วนของการมีส่วนร่วมของกลุ่มมอญต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ พบว่า ปัญหาหลักส่วนใหญ่เกิดจากสิทธิที่ไม่เท่าเทียมกันของกลุ่มชาติพันธุ์ ระดับการมีส่วนร่วมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กลุ่มมอญพลัดถิ่นกระทำได้เพียงลักษณะของการเป็นแรงงาน หรือการรับจ้างดำเนินการต่างๆ แต่ยังไม่มีบทบาทในฐานะผู้ออกความคิดเห็นหรือผู้ดำเนินการหลักในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ตัณฑะเทศ อ., ไขว้พันธุ์ ว., & คณะ แ. (2017). การศึกษาสภาพวัฒนธรรมมอญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของกลุ่มมอญ ในอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อการจัดการการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน. วารสารกระแสวัฒนธรรม, 18(34), 40–51. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/cultural_approach/article/view/102319
ประเภทบทความ
Research Article

เอกสารอ้างอิง

[1] Burutpat, Somsong., Deepadung, Sujaritluk., Suraratdecha, Sumitra., Adsamiti, Narong., Patpong, Pattama., & Sitapong, Pichet. (2011). Ethno-Linguistic Maps of the Western Region of Thailand. Journal of Language and Culture, 30(2), 83-114.

[2] Department of Social Development and Welfare. (2016). Ethnic Groups in Thailand, According to the Settlement. Office of Ethnic Affairs. Retrieved October 1, 2016, from https://www.chatipan.dsdw.go.th/chatipan02.html.

[3] Kaewkhunok, Suppawit. (2009). Tourism and the Commodification of Mon Culture at Sangkhlaburi. Retrieved October 29, 2016, from https://www.academia.edu/ 20323980.pdf.

[4] Meesomklin, Tanyapa., Chantasuriwong, Rattaphum., Limratanametha, Bariwat., & Kaewkhunok, Suppawit. (2015). Mon-Sangkhla: Becoming a Tourist Hotspot of Kanchaburi Province. The 8th Thai Student Symposium on Geography and Geo-informatics, 25-26 December 2015.

[5] Prasitthisarn, Tananset., Kaitpraneet, San., & Huamuangkaew, Wuttipol. (2013). People Participation in Forest Resource Conservation at Pa Phu Ra-hgum National Reserved Forest, Waeng Yai and Connabot District, Khon Kaen Province. Thai Journal of Foresty, 33(1), 57-65.

[6] Renard, R., & Singhanetra-Renard, Ancharee. (2015). Mon and Khmer: Peoples of the Mekong Region. Chiang Mai University Press.

[7] Sangchawee, Siriwat., Jintana, Vipak., and Pipatnawatanakul, Damrong. (2013). People Satisfaction on the Headwaters’s Community Development in Nong Lu Sub-district, Sangkhla Buri District, Kanchaburi Province. Thai Journal of Foresty, 32(2), 204-213.

[8] Tabwiset, Apichat. (2003). Luang Por Uttama: Culture Hero and the Social and Cultural Change of Diaspora Mon Village in Sangkhlaburi. Graduate School, Silpakorn University.

[9] Yamcharoen, Nattapong. (2014). From Utamanusorn Wooden Bridge to Bamboo Floating Bridge: Reflection of Life on the Changing of Thai and Mon besides the Songalia River. Kasem Bundit Journal, 15(2), 89-102.