รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการการคลังเทศบาลเมืองในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

Main Article Content

วรสิทธิ์ เจริญพุฒ

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ประเมินสมรรถนะการจัดการการคลังของเทศบาลเมือประจวบคีรีขันธ์ง (2) อธิบายทัศนะของผู้บริหารที่มีต่อการจัดการการคลังของเทศบาลเมือง (3) เปรียบเทียบทัศนคติของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตามลักษณะประชากรและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่มีผลต่อสมรรถนะกับการจัดการการคลังของเทศบาลเมือง  (4) สร้างรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการการคลัง การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี การวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 28 คน ที่เลือกแบบเจาะจงจากผู้บริหารระดับสูง เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์และเทศบาลเมืองหัวหิน นักการเมืองท้องถิ่น สื่อมวลชนท้องถิ่น พนักงานราชการส่วนท้องถิ่น โดยใช้เครื่องมือรวบรวมข้อมูลคือ การสัมภาษณ์เชิงลึก ทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหาและการตีความ ส่วนการวิจัยเชิงปริมาณประชากรได้แก่ พนักงานและข้าราชการส่วนท้องถิ่น สังกัดเทศบาลเมืองขนาดกลุ่มตัวอย่าง 270 คนรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม ทำการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนการทดสอบสมมติฐานใช้สถิติที การวิเคราะห์ความแปรปรวน และสถิติถดถอยเชิงพหุ


            ผลการวิจัยพบว่า 1) สมรรถนะการจัดการการคลังของเทศบาลเมือง มีปัญหาด้านโครงสร้างทางการคลัง ไม่สามารถพึ่งพาตนเองทางการคลัง ขาดความเข้มแข็งทางการเงิน 2) ผู้บริหารระดับสูงมีทัศนคติการบริหารงานคลังแบบประชานิยมสมัยใหม่ 3) มีความแตกต่างระหว่างทัศนคติของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อสมรรถนะการจัดการการคลังอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ ปัจจัยที่มีผลต่อสมรรถนะการจัดการการคลังของเทศบาลเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับสมรรถนะการจัดการการคลังของเทศบาลเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 สามารถอธิบายความผันแปรของความสามารถบริหารงานคลังได้ร้อยละ 51.4  4) รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะในการบริหารงานคลัง ประกอบด้วย 4.1) การปรับเปลี่ยนทัศนคติการบริหารงานคลัง 4.2) การสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องหน้าที่พลเมืองที่ต้องชำระภาษี 4.3) การลดบรรยากาศและวัฒนธรรมการเมืองท้องถิ่น จากการแก่งแย่งชิงดีกันไปสู่บรรยากาศและวัฒนธรรมการเมืองแบบสโมสร 4.4) ปรับปรุงการบริหารงานจัดเก็บรายได้ 4.5) ปรับปรุงเนื้อหา ข้อกฎหมาย ระเบียบ ปฏิบัติ

Article Details

บท
บทความวิจัย