การพัฒนารูปแบบกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพื่อการเติบโตของอุตสาหกรรมโรงแรมในประเทศไทย

Main Article Content

คุณานันท์ สุขพาสน์เจริญ

Abstract

การศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษารูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหว่างโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจและการดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจ ที่มีต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมโรงแรมในประเทศไทย (2) เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรค แนวทางในการแก้ไขปัญหาของอุตสาหกรรมโรงแรมในประเทศไทย และ(3) เพื่อการนำเสนอรูปแบบการดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตของอุตสาหกรรมโรงแรมในประเทศไทย โดยใช้เทคนิค การวิจัยทั้ง 2 แบบคือ การวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้เทคนิคสโนว์บอล (Snowball Sampling Technique) และการวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) แบบวัดครั้งเดียว (One-Short Study) กับ ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมชั้นนำระดับ 4 ดาว และ 5 ดาว ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมอุตสาหกรรมโรงแรมไทย ประจำปี 2554 โดยเก็บข้อมูลได้จากโรงแรม 124 แห่ง การทดสอบการหาความเที่ยงตรง และการหาค่าความสอดคล้องของเนื้อหา (Content Validity) โดยใช้เทคนิค Item Objective Congruent (IOC) โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน ซึ่งได้ค่าดัชนีความสอดคล้องกับเนื้อหาได้ มากกว่า .05 ทุกข้อ และค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือการวิจัย (Reliability) ซึ่งได้ค่า Alpha Coefficient เท่ากับ 0.9018 ในส่วนของการวิจัยเชิงคุณภาพโดยการประยุกต์ใช้ของกลยุทธ์ความได้เปรียบเชิงการแข่งขันในการบริการธุรกิจโรงแรมไทย (Diamond Model) และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยการใช้สถิติการวิเคราะห์ คือ ค่าร้อยละ การหาค่าความถี่ การหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ตามแต่ละส่วนของแบบสอบถาม และ การวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling : SEM)
         ผลการวิจัยพบว่า 1) โครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจเกี่ยวกับมูลค่าการลงทุนของธุรกิจ จำนวนพนักงานในองค์การ ระยะเวลาดำเนินธุรกิจ และกลยุทธ์ทางธุรกิจเกี่ยวกับการจัดการคุณภาพการบริหารจัดการ การตลาดบริการ เทคโนโลยีสารสนเทศต่างมีความสัมพันธ์เชิงสาเหตุต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมโรงแรมในประเทศไทยที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 2) รูปแบบกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตของอุตสาหกรรมโรงแรมในประเทศไทยที่พัฒนาขึ้นมีความกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ อีกทั้งมีความสามารถในการพยากรณ์ได้ระดับดีและเป็นที่ยอมรับ คิดเป็นร้อยละ 75.8 ซึ่งผ่านเกณฑ์ตั้งแต่ร้อยละ 40 ขึ้นไป และ 3) ปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมืองที่มาจากความขัดแย้งทางการเมืองจัดได้ว่าเป็นปัญหา อุปสรรคเรื้อรังที่ส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมโรงแรมในประเทศไทยจึงมีความจำเป็นต้องแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน

The objectives of research were 1) to study a causal relationship model development of infrastructure and business strategies for hotel industries’ growth in Thailand 2) to study the obstacles and solution of the hotel industry in Thailand, and 3) to present the development model of infrastructure and business strategies for hotel industries’ growth in Thailand. The research methodology combined between qualitative and quantitative were carried out by using snowball sampling technique and One-Short study survey research with the ranking levels at 4 star and 5 star hotel located in Thailand, as member of the Association of Thailand 2011. The total data collected included 124 hotels. The test for accuracy and quality of tools according to content (Content Validity) and Item Objective Congruent (IOC) by 5 professionals, showed that the Content Validity index was over .05 and the average reliability of the research tool, Alpha Coefficient was 0.9018. The qualitative data research analyzed by the application of the international competitive advantage strategy (Diamond Model), and the quantitative data research analyzed by statistical analysis as follows: percentages, frequency, mean, and standard deviation, as well as structural equation modeling (SEM).
         The research findings indicated that 1) Infranstucture of business including; value investment, a number of staff, a period of business and the strategy of business management such as total quality management, service marketing and information technology was correlated with hotel industries’ growth in Thailand, at a statistical significance of 0.05. 2) The developed causal relationship model of business strategies for hotel industries' growth in Thailand was created consistently with empirical data and had an ability to predict at good level, the correlation was 75.8%, which it was accepted more than 40% and 3) The problem of political chaos and conflicts were the considerable matters to hotel industry in Thailand which requires the problem-solving urgently.

Article Details

Section
Research Article