ผลการส่งเสริมทักษะศตวรรษที่ 21 (4Cs) ด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน สำหรับนักศึกษาครูคอมพิวเตอร์

Main Article Content

ลาวัณย์ ดุลยชาติ
สุรจักษ์ พิริยะเชิดชูชัย
ปัญญา เถาว์ชาลี

บทคัดย่อ

          การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้กิจกรรมส่งเสริมทักษะศตวรรษที่ 21 (4Cs) ด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน ในรายวิชาโครงการพิเศษด้านคอมพิวเตอร์ศึกษา ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบเชิงทดลอง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักศึกษาวิชาเอกคอมพิวเตอร์ คณะศึกษาศาสตร์และนวัตกรรมการศึกษา มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชาโครงการพิเศษด้านคอมพิวเตอร์ศึกษา จำนวน 18 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม โดยได้รับการสอนด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน ใช้เวลาในการทดลอง 16 สัปดาห์ จำนวน 60 ชั่วโมง  เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะศตวรรษที่ 21(4Cs) 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบประเมินความสามารถศตวรรษที่ 21 (4Cs) ตามคุณลักษณะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม และ 4)แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบที
         ผลการวิจัยพบว่า ผลการทดลองใช้กิจกรรมส่งเสริมทักษะศตวรรษที่ 21 (4Cs) ประกอบด้วย 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านความรู้ โดยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ความสามารถด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม พบว่าคะแนนเฉลี่ยของนักศึกษามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับเกณฑ์ที่ตั้งไว้ที่ร้อยละ 70 โดยคะแนนเฉลี่ยของนักศึกษาสูงกว่าเกณฑ์ดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05  และ3) ด้านความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการส่งเสริมทักษะศตวรรษที่ 21(4Cs) อยู่ในระดับมากที่สุด

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ดุลยชาติ ล. . ., พิริยะเชิดชูชัย . ส. ., & เถาว์ชาลี ป. . (2024). ผลการส่งเสริมทักษะศตวรรษที่ 21 (4Cs) ด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน สำหรับนักศึกษาครูคอมพิวเตอร์. Journal of Roi Kaensarn Academi, 9(12), 1230–1242. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JRKSA/article/view/275476
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม. (2563). นโยบายและยุทธศาสตร์การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2563–2570. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 23 สิงหาคม 2567. แหล่งที่มา: https://www. mhesi.go.th/ index.php/stg-policy/930-2563-2570.html

กระทรวงศึกษาธิการ. (2562). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (พ.ศ. 2562). สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 23 สิงหาคม 2567. แหล่งที่มา: https://www. moe.go.th /law2542/

บุญชม ศรีสะอาด. (2542). การวิจัยเบื้องต้น. กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น.

มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์. (2563). แผนปฏิบัติราชการมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2563–2567). 23 สิงหาคม 2567. แหล่งที่มา: https://th.ksu.ac.th/download/plan5y

วิพรพรรณ ศรีสุธรรม. (2562). การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน เพื่อส่งเสริมการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต (วิทยาศาสตรศึกษา). บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.

สาขาคอมพิวเตอร์. (2563). รายงานการประชุมสาขาคอมพิวเตอร์ ประจำปี 2563. คณะศึกษาศาสตร์และนวัตกรรมการศึกษา มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์.

Bell, S. (2010). Project-Based Learning for the 21st Century: Skills for the Future.The Clearing House: A Journal of Educational Strategies, Issues and Ideas. 83 (2), 39–43.

Craft, A. (2005). Creativity in Schools: Tensions and Dilemmas. Routledge.

Facione, P. A. (2011). Critical Thinking: What It Is and Why It Counts. Insight Assessment.

Kay, K. (2010). 21st Century Skills: Why They Matter, What They Are, and How We Get There. 21st Century Skills: Rethinking How Students Learn.

Robinson, K. (2015). Creative Schools: The Grassroots Revolution That’s Transforming Education. Penguin Books.

Sawyer, R. K. (2012). Explaining Creativity: The Science of Human Innovation. Oxford University Press.

Thomas, J. W. (2000). A Review of Research on Project-Based Learning. Autodesk Foundation.

Trilling, B., & Fadel, C. (2009). 21st Century Skills: Learning for Life in Our Times. Jossey-Bass.

UNESCO. (2015). Rethinking Education: Towards a Global Common Good?. UNESCO.