กลไกภาคีเครือข่ายความร่วมมือ ระบบนิเวศการเรียนรู้ในการขับเคลื่อน เมืองแห่งการเรียนรู้มรดกทางวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ตลอดชีวิต ในชุมชนเทศบาลนครนครศรีธรรมราช

Main Article Content

ประกิต ไชยธาดา
จุติพร อัศวโสวรรณ
สาวิมล รอดเจริญ
พิมพ์ลภัส จิตต์ธรรม
วายุภักษ์ ทาบุญมา
เบญจพร จันทรโคตร

บทคัดย่อ

          งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างกลไกภาคีเครือข่ายความร่วมมือในการขับเคลื่อนเมืองแห่งการเรียนรู้มรดกทางวัฒนธรรม 2) ศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลที่ส่งผลต่อกลไกความร่วมมือในการสร้างคุณลักษณะการเรียนรู้ตลอดชีวิต 3) พัฒนาระบบนิเวศการเรียนรู้มรดกทางวัฒนธรรมในชุมชนเทศบาลนครนครศรีธรรมราช กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการสร้างกลไกความร่วมมือและพัฒนาระบบนิเวศการเรียนรู้ในการขับเคลื่อนเมืองแห่งการเรียนรู้มรดกทางวัฒนธรรมประกอบด้วย ผู้นํา ชุมชน ประธาน สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ตัวแทนครู อาจารย์ จากโรงเรียน วิทยาลัย และมหาวิทยาลัย รวมทั้งสิ้น 36 คน และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาคุณลักษณะการเรียนรู้ตลอดชีวิตประกอบด้วย ประชาชนที่เข้ามาใช้พื้นที่การเรียนรู้มรดกทางวัฒนธรรมจำนวน 572 คน โดยใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม และแบบประเมินคุณลักษณะการเรียนรู้ตลอดชีวิต ผลการวิจัยพบว่า กลไกต่าง ๆ เกิดขึ้นได้จากการมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน และนักจัดการเรียนรู้ในชุมชน เกิดเป็นเครือข่ายความร่วมมือที่สามารถขับเคลื่อนกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ได้อย่างยั่งยืน นักจัดการเรียนรู้ชุมชนมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและต่อยอดมรดกทางวัฒนธรรมในพื้นที่ ร่วมกันสร้างพื้นที่การเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์มีชีวิต เกิดเป็นระบบนิเวศการเรียนรู้ การประเมินคุณลักษณะการเรียนรู้ตลอดชีวิตของกลุ่มตัวอย่างพบว่า มีคะแนนเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.42 อยู่ในระดับมาก เมื่อจำแนกเป็นรายด้านพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีการพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.52 ความแตกต่างของอาชีพหลักของกลุ่มตัวอย่างทำให้มีคุณลักษณะการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 0.05

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ไชยธาดา ป. ., อัศวโสวรรณ . จ. ., รอดเจริญ ส. ., จิตต์ธรรม พ., ทาบุญมา ว. ., & จันทรโคตร เ. (2024). กลไกภาคีเครือข่ายความร่วมมือ ระบบนิเวศการเรียนรู้ในการขับเคลื่อน เมืองแห่งการเรียนรู้มรดกทางวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ตลอดชีวิต ในชุมชนเทศบาลนครนครศรีธรรมราช. Journal of Roi Kaensarn Academi, 9(12), 1349–1371. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JRKSA/article/view/275332
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา. (2564). เมืองแห่งการเรียนรู้คืออะไร. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 20 ธันวาคม 2566. แหล่งที่มา : https://research.eef.or.th/learning-city/

จรัส อติวิทยาภรณ์ และคณะ. (2564). ศึกษาปัญหาและความต้องการ นวัตกรรมการเรียนรู้ สู่การเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของเทศบาลนครหาดใหญ่. รายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการ การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 12. 25 มิถุนายน 2564. มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.

เชษฐา มุหะหมัด, เดโช แขน้ำแก้ว บุญยิ่ง, ประทุม พีระพงค์, สุจริตพันธ์ และ พีรดาว สุจริตพันธ์. (2565). การสร้างกลไกความร่วมมือ และเครือข่ายพัฒนาพื้นที่การเรียนรู้พิพิธภัณฑ์มีชีวิตเพื่อสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นและคุณภาพชีวิตในพื้นที่เทศบาลเมืองปากพูน จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารวิจัยราชภัฏเชียงใหม่. 23 (2), 121-137.

นิรันดร์ จงวุฒิเวศย์. (2550). แนวคิดแนวทางการพัฒนาชุมชน. กรุงเทพมหานคร: บริษัทรำไทยเพลส.

ธิป ศรีสกุลไชยรัก. (2565). การอนุรักษ์และการจัดการมรดกทางวัฒนธรรมในย่านประวัติศาสตร์ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมในบริบทของไทย กรณีศึกษา เมืองเก่าสงขลา. วิทยานิพนธ์หลักสูตรปริญญาสถาปัตยกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต. สาขาวิชาสถาปัตยกรรม. ภาควิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์. คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

รัตนรุจน์ สุพรรณ. (2559). การมีส่วนร่วมของชุมชนในการอนุรักษ์เมืองเก่านครศรีธรรมราช. วิทยานิพนธ์หลักสูตรปริญญาสถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชาการออกแบบชุมชนเมือง. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

วิศรุตา ทองแกมแก้ว. (2566). การบริหารงานแบบประสานความร่วมมือต่อการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น กรณีศึกษา สวนส้มโอหอมควนลัง จังหวัดสงขลา. Journal of Roi Kaensarn Academi. 8 (8), 313-327.

วิเชียรโชติ โสอุบล และคณะ (2559). การพัฒนาต้นแบบเมืองแห่งการเรียนรู้ : กรณีศึกษาการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุบ้านเหล่าแดง อำเภอดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี โดยใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research : PAR). สถาบันพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ : กระทรวงศึกษาธิการ.

ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง. (2563). เมืองแห่งการเรียนรู้คืออะไรเมื่อการเรียนรู้มากกว่าการศึกษา. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 20 ธันวาคม 2566. แหล่งที่มา: https://theurbanis.com/public-realm/03/11/2020/3817

อจิรภาส์ ประดิษฐ์ สันต์ สุวัจฉราภินันท์ ปรานอม ตันสุขานันท์ อัมพิกา ขุมมัธยา และจิรันธนิน กิติกา. (2566). ประชาสังคม: ทรัพยากรการเรียนรู้ชุมชนเพื่อการสร้างกลไกเมืองแห่งการเรียนรู้. วารสารวิชาการการออกแบบสภาพแวดล้อม. 10 (1), 26-47.

อังคณา นาสารี จิณณวัตร ปะโคทัง สมาน อัศวภูมิ และวิสุทธิ์ ราตรี. (2557). การพัฒนายุทธศาสตร์ในการพัฒนาเทศบาลนครอุบลราชธานีสู่เมืองแห่งหารเรียนรู้. วารสารศึกษาศาสตร์ ฉบับวิจัยบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 8 (2), 233-242.

อุดมลักษณ์ ฮุ่นตระกูล. (2555). มองความหมายของ “มรดกทางวัฒนธรรม” ผ่านพื้นที่พิพิธภัณฑ์ กรณีการจัดการมรดกทางวัฒนธรรมจังหวัดลำพูน. วารสารศิลปศาสตร์. 12 (1), 128-171.

Feilden, B., and Jokilehto, J. (1998). Management Guidelines for World Cultural Heritage Sites. Rome: International Centre for the Study of the Preservation and Restoration of Cultural Property.

Landry, C., and Matarasso, F. (1999). Balancing act: twenty-one strategic dilemmas in cultural policy. Belgium: Council of Europe Publishing.

Teneva, M., and Zhelyazkova, Z. (2020). Lifelong Learning - A Factor of Professional Realization. CBU International Conference on Innovations in Science and Education 2020 (Social Sciences), March 18-20, 2020, Prageu, Czech Republic.

Zamalijeva, O., Kairys, A., Mikelsone, M., and Reine, I. (2022). Current Individual and Retrospective Factors Associated with Lifelong Learning among 50-64 Year Olds in the Baltic States. Pedagogika, 144 (4), 69-87.