การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะหลักของครูด้วยการศึกษา นอกระบบแบบมีส่วนร่วม

Main Article Content

ธีระศักดิ์ ทั่งสุวรรณ
กชวร จุ๋ยมณี

บทคัดย่อ

          การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสมรรถนะหลักของครูในปัจจุบันและสมรรถนะที่ควรได้รับการพัฒนา และ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบโรงเรียนแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะหลักของครู เป็นการวิจัยโดยใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยผู้บริหารและครูโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาของรัฐแห่งหนึ่ง จำนวน 85 คน กลุ่มตัวอย่างที่ 1 เลือกแบบเจาะจง กลุ่มตัวอย่างที่ 2 และ3 เลือกแบบโควตา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบบสัมภาษณ์ แบบสนทนากลุ่ม แบบสอบถาม แผนกิจกรรมการเรียนรู้ แบบสังเกตและแบบประเมินความพึงพอใจ ผลการตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) โดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่าเครื่องมือวิจัยที่ใช้ในการวิจัย มีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) เท่ากับ 1.00 แสดงถึงความสอดคล้องในระดับสูง สถิติที่ใช้ในการวิจัย วิเคราะห์ด้วยสถิติพรรณนา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน พร้อมทั้งใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา
          ผลการวิจัยพบว่า ผู้บริหารและครูทุกคนให้ความสำคัญกับสมรรถนะด้านการมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงานเป็นอันดับแรก แต่จากประสบการณ์เห็นความจำเป็นว่าการทำงานเป็นทีมจะมีส่วนช่วยให้สมรรถนะดังกล่าวบรรลุผลได้ จึงได้พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ที่บูรณาการสมรรถนะทั้งสองด้าน ผ่านโครงการ อบรมเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างสมรรถนะหลักการมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงานด้วยกระบวนการทำงานเป็นทีม (Team Boost Excellence Initiative) ผลการประเมินพบว่า กิจกรรมสามารถกระตุ้นพฤติกรรมที่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เข้าร่วมมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.86, S.D. = 0.37) และสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้จริง

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ทั่งสุวรรณ ธ. ., & จุ๋ยมณี ก. . (2024). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะหลักของครูด้วยการศึกษา นอกระบบแบบมีส่วนร่วม. Journal of Roi Kaensarn Academi, 9(12), 229–240. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JRKSA/article/view/275047
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

นิตยา เงินประเสริฐศรี. (2544). การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม. วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 27 (2), 61-73.

ดวงกมล ไตรวิจิตรคุณ. (2550). วิธีวิทยาการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

พริษฐ์ วัชรสินธุ และธีรศักดิ์ จิระตราชู. (2564). วิบากกรรมระบบการศึกษาไทย สู่ข้อเสนอ 6 มาตรการ (6 Re’s) เพื่อหาทางออกร่วมกันในช่วงโควิด. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 5 กันยายน 2567. แหล่งที่มา: https://workpointtoday.com/covid-policy-lab-education/

พสุธิดา ตันตราจิณ พิไลพรรณ นวานุช ไกรภพ กฤตสวนนท์ และสุภัคศิริ ปราการเจริญ. (2559).

ทุนมนุษย์: การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ในศตวรรษ ที่ 21. วารสารสุทธิปริทัศน์. 30 (พิเศษ), 115-123.

รัชจิกร จิตวัฒนานนท์. (2563). สมรรถนะในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการศึกษาสำนักงานพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในกลุ่มจังหวัดภาคกลาง. Journal of Management Science Nakhon Pathom Rajabhat University. 8 (1), 63-78.

รัชนิดา รักกาญจนันท์. (2560). การพัฒนาบุคลากรตามกรอบสมรรถนะของข้าราชการ สายงานวิชาการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. (กรุงเทพมหานคร).

วราลักษณ์ ไชยทัพ. (2544). การจัดกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม. เชียงใหม่: บี. เอส. การพิมพ์

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต2. (2563). รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (ONET).

สำนักพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2553). คู่มือการประเมินสมรรถนะครู. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาพื้นฐาน.

อาชัญญา รัตนอุบล และคณะ. (2550). แนวโน้มการจัดการศึกษานอกระบบโรงเรียนของประเทศไทยในทศวรรษหน้า.

Bergenhenegouwen, G.Ten Horn, H. and Mooijman, E. (1997). Competence development‐a challenge for human resource professionals: core competences of organizations as guidelines for the development of employees. Industrial and commercial training. 29 (2), 55-62.

Creswell, J. W. (2014). Research Design: Qualitative, Quantitative, and Mixed Methods Approaches (4th ed.). Thousand Oaks, CA: SAGE Publications.

McClelland, D. C. (1973). Testing for competence rather than for" intelligence.". American psychologist, 28 (1), 1.

Nastasi, B. K. and Schensul, S. L. (2005). Contributions of qualitative research to the validity of intervention research. Journal of school psychology, 43 (3), 177-195.

Stringer, E. T. (1999). Action research. 2nd ed.