การจัดตั้งชุมชนไทยในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษารูปแบบการจัดตั้งชุมชนชาวไทยในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีนตั้งแต่อดีตจนถึงสภาพปัจจุบัน เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา เป็นชาวไทยที่ดำรงอยู่ในพื้นที่ เกาลูน ตั้งแต่ 10 ปีขึ้น ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกจนกว่าข้อมูลจะอิ่มตัวจำนวนไม่ต่ำกว่า 50 ท่าน ใช้วิธีเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบลูกโซ่ โดยอาศัยการแนะนำของกลุ่มตัวอย่างที่ได้เก็บข้อมูลไปแล้วที่ตรงกับผู้วิจัยต้องการ ผลการวิเคราะห์พบว่า มีปัจจัยทั้ง 10 ประการที่มีความสำคัญต่อการจัดตั้งชุมชนชาวไทย ได้แก่ ปัจจัยด้านอาชีพมีการพัฒนาในด้านรายได้ของสมาชิกเกิดจากฮ่องกงมีสภาวะเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวย, ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมฮ่องกงมีการพัฒนาในด้านสาธารณูปโภคอย่างรวดเร็วเนื่องจากฮ่องกงเป็นเมืองที่มียุทธศาสตร์ทางการค้า, ปัจจัยด้านขนาดของชุมชนมีการพัฒนาการทางด้านรายได้ของสมาชิกจึงความพยายามรวมตัวกันเพื่ออาศัยอยู่ในชุมชน, ปัจจัยด้านความหนาแน่นของประชากรฮ่องกงมีการจัดการผังเมืองใหม่จึงเกิดเป็นแหล่งชุมชนคนไทยในย่านเกาลูน, ปัจจัยความต่างแบบหรือความเป็นแบบเดียวกันของประชากรมีการสร้างบรรยากาศเป็นเอกลักษณ์ไทยจนหลากหลายผู้คนได้รับรู้, ปัจจัยด้านความแตกต่างทางสังคมและการแบ่งชั้นทางสังคมมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้, ปัจจัยด้านการเคลื่อนที่ทางสังคมคนไทยมีจุดมุ่งหมายมาเพื่อยกระดับรายได้ทั้งนี้เดินทางระหว่างไทยกับฮ่องกงมีความสะดวก, ปัจจัยด้านระบบของการกระทำระหว่างกันมีการรวมกลุ่มของสมาคมรวมไทยในการประสานกิจกรรมต่างๆทำให้สมาชิกในชุมชนเริ่มเห็นประโยชน์จากความร่วมมือนำไปสู่ปัจจัยด้านสมาชิกมีจิตสำนึกต่อสาธารณะจึงได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐฮ่องกงเพื่อช่วยเหลือคนไทย และปัจจัยด้านสวัสดิการของภาครัฐคนไทยคำนึงถึงประโยชน์จากการได้รับสิทธิต่าง ๆ มีความพยายามต้องวิซ่าถาวรเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของตน
จากผลการวิจัยนำไปกำหนดแนวทางและพัฒนาส่งเสริมให้ชุมชนคนไทยให้มีความแข็งแกร่งและเติบโตขึ้นโดยผ่านการผสานความร่วมมือทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านสมาชิกในชุมชน ภาครัฐฮ่องกง และภาครัฐไทย ในการกำหนดแนวทางในการพัฒนาชุมชนเพื่อยกระดับเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม
Article Details
เจ้าของบทความมิได้คัดลอก หรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ใด หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าวิธีใด หรือการฟ้องร้องไม่ว่ากรณีใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ กองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ให้เป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความที่จะดำเนินการ