การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการ ชุมชนเข้มแข็งของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตตำบลท่าโพ จังหวัดอุทัยธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการบริหารจัดการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตตำบลท่าโพ เพื่อวิเคราะห์สภาพปัญหา ความต้องการพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการที่ดีของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตตำบลท่าโพ เพื่อพัฒนาศักยภาพในการบริหารจัดการที่ดีกลุ่มออมทรัพย์ตำบลท่าโพ ดำเนินการวิจัยด้วยวิธีวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research : PAR) ประชากร คือ สมาชิกและคณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตตำบลท่าโพ จำนวน 1,345 ราย โดยทำการเลือกแบบเจาะจงเป็นกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 100 คน ใช้วิธีดำเนินงานวิจัยโดยทำการวิเคราะห์ SWOT ร่วมกับเทคนิค AIC นำมากำหนดกลยุทธ์ด้วยการวิเคราะห์ TOWS Matrix เครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์ การสังเกต แบบประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ และแบบประเมินความพึงพอใจของหลักสูตร การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา และสถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติทดสอบ t – test ( Paired t – test)
ผลการศึกษา สภาพปัญหาการบริหารจัดการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตตำบลท่าโพ พบว่า สมาชิก
กลุ่มเกือบทั้งหมดขาดความรู้ เรื่อง กฎและระเบียบของกลุ่มที่ชัดเจน บทบาท หน้าที่ที่ควรรู้และพึงรับทราบ ขาดการอบรมให้ความรู้แก่สมาชิกและเยาวชน ขาดการสร้างแรงจูงใจให้แก่สมาชิกถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ ขาดการประชาสัมพันธ์ให้กับสมาชิกอย่างทั่วถึงและเป็นระบบ สมาชิกยังขาดการช่วยกันแสดงความคิดเห็น ขาดเงินทุนหมุนเวียนให้สมาชิกกู้ยืมเพิ่มขึ้น สมาชิกบางคนไม่ค่อยเข้าร่วมการประชุม ขาดการชักนำให้กลุ่มเยาวชนเห็นคุณค่าของการออมเงินเพื่อเข้ามาเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพิ่มขึ้น ไม่ค่อยมีการจัดกิจกรรมให้กรรมการและสมาชิกไปศึกษาดูงานในสถานที่อื่นๆ สมาชิกบางคนยังขาดวินัยในการส่งเงินกู้ยืมในระยะเวลาที่กำหนด และเยาวชนคนรุ่นใหม่ยังไม่ค่อยเข้ามามีส่วนร่วม เช่น การเป็นคณะกรรมการของกลุ่ม ฯ การพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการที่ดีของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตตำบลท่าโพ ได้แก่ การจัดทำบัญชี การรับฝากเงิน การจ่ายเงินปันผล การจ่ายเงินกู้ และการศึกษาดูงานนอกสถานที่ ผลการทดสอบความแตกต่าง โดยใช้สถิติทดสอบ Paired t – test พบว่า มีนัยสำคัญทางสถิติ = .01 แสดงว่า
Article Details
เจ้าของบทความมิได้คัดลอก หรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ใด หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าวิธีใด หรือการฟ้องร้องไม่ว่ากรณีใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ กองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ให้เป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความที่จะดำเนินการ