การศึกษาสภาพและความต้องการพัฒนาความสามารถการบูรณาการไอซีทีในการสอน ของครูระดับประถมศึกษา สังกัดคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน

บทคัดย่อ

     การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพและความต้องการพัฒนาความสามารถการบูรณาการไอซีทีในการสอนของครูระดับประถมศึกษา สังกัดคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เป็นการวิจัยเชิงสำรวจโดยใช้แบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างมีจำนวน 387คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน ผลการศึกษาพบว่า ครูส่วนใหญ่มีการนำเครื่องมือไอซีทีมาใช้ในการสอนต่ำกว่า6ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (38.5%) และส่วนใหญ่มีสัดส่วนการนำเครื่องมือไอซีทีมาใช้ในการสอนต่อชั่วโมงสอนต่อสัปดาห์21-40% (24.3%) เมื่อวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นด้านการบูรณาการไอซีทีในการสอน รายการความต้องการจำเป็นที่พบว่ามีค่า PNI_modifiedสูงที่สุดมีความสำคัญเป็นลำดับที่หนึ่ง คือ การใช้ไอซีทีในการประเมินผู้เรียนก่อนเรียน รองลงมาคือ การใช้ไอซีทีในการประเมินผู้เรียนหลังเรียน และการใช้ไอซีทีในการตรวจสอบความเข้าใจของผู้เรียนระหว่างเรียน และเมื่อวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นด้านการพัฒนาความสามารถการบูรณาการไอซีทีในการสอน ความต้องการจำเป็นที่มีความสำคัญเป็นลำดับที่หนึ่ง คือ ครูต้องการให้มีผู้เชี่ยวชาญภายนอกที่มีประสบการณ์ด้านการบูรณาการไอซีทีในการสอนช่วยให้คำแนะนำในการเลือกใช้ไอซีทีในการสอน รองลงมาคือ การร่วมมือกันในการผลิตสื่อไอซีทีและเตรียมอุปกรณ์ และ                 การร่วมมือกันออกแบบการสอนโดยใช้ไอซีทีแก้ปัญหาผู้เรียน