การพัฒนากิจกรรมการเรียนรูคณิตศาสตรโดยใชรูปแบบการจัดการเรียนรู ตามแนวคิดทฤษฎี คอนสตรัคติวิสต และกระบวนการแกปญหาของโพลยาที่เนนทักษะการคิดวิเคราะห เรื่อง การประยุกต 2 มัธยมศึกษาปที่ 1
Main Article Content
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงคเพื่อ 1) การพัฒนากิจกรรมการเรียนรูคณิตศาสตรโดยใชรูปแบบการจัดการเรียนรู ตามแนวคิด ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต และกระบวนการแกปญหาของโพลยาที่เนนทักษะการคิดวิเคราะห เรื่อง การประยุกต 2 มัธยมศึกษา ปที่ 1 2) พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตรใหนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยไมนอยกวารอยละ 70 และ นักเรียนจํานวน ไมนอยกวารอยละ 70 ของนักเรียนทั้งหมด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแตรอยละ 70 ขึ้นไป 3) ศึกษา ทักษะการคิดวิเคราะหของนักเรียนที่ไดเรียนรูจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู กลุมเปาหมาย เปนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1 โรงเรียนพระธาตุหนองสามหมื่น อําเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ภาคเรียนที่ 2 ปการศึกษา 2556 จํานวน 39 คนรูปแบบการวิจัยเปน การวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) จํานวน 3 วงจร ประกอบดวย 4 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นการวางแผน 2) ขั้นปฏิบัติ 3) ขั้นสังเกตการณ 4) ขั้นสะทอนการปฏิบัติ เครื่องมือที่ใชในการวิจัย ไดแก 1) เครื่องมือที่ใชในการทดลองปฏิบัติ ไดแก แผนการจัดการเรียนรูโดยใชรูปแบบการจัดการเรียนรู ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต และโดยใชกระกวนการแกปญหาของ โพลยาที่เนนทักษะการคิดวิเคราะห เรื่อง การประยุกต 2 สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1 จํานวน 10 แผน 2) เครื่องมือ ที่ใชในการสะทอนผลการปฏิบัติ ไดแก แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมแบบบันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู แบบทดสอบ ทายวงจร 3) เครื่องมือที่ใชในการประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรูไดแก แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียน และแบบทดสอบวัดทักษะการคิดวิเคราะห เรื่อง การประยุกต 2 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1
ผลการวิจัยพบวา
1. การพัฒนากิจกรรมการเรียนรูคณิตศาสตรโดยใชรูปแบบการจัดการเรียนรู ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต และ กระบวนการแกปญหาของโพลยาที่เนนทักษะการคิดวิเคราะห เรื่อง การประยุกต 2 มัธยมศึกษาปที่ 1 เปนรูปแบบการสอนประกอบ ดวย 5 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นนําเขาสูบทเรียน เปนการแจงจุดประสงคการเรียนรู และทบทวนความรูโดยใชสื่อการสอนที่หลากหลาย 2) ขั้นสอน ประกอบดวย (1) ขั้นเผชิญปญหาและแกปญหาเปนรายบุคคล เปนขั้นที่นักเรียนศึกษาสถานการณปญหาเปน รายบุคคลตามขั้นตอนการแกปญหาของโพลยามี 4 ขั้นตอนคือ ขั้นที่ 1 ทําความเขาใจปญหา นักเรียนอานโจทยและทําความเขาใจ ปญหา โดยบอกสิ่งที่ตองการวิเคราะหและสิ่งที่เปนปญหาหรือวัตถุประสงค ขั้นที่ 2 วางแผนการแกปญหา นักเรียนวางแผน หรือหายุทธวิธีในการแกปญหาและเลือกยุทธวิธีแกปญหาที่มีประสิทธิภาพที่สุด ขั้นที่ 3 ดําเนินการตามแผน นักเรียนแสดงวิธีหาคําตอบที่ไดวางแผนไว ขั้นที่ 4 มองยอนกลับ ตรวจสอบความถูกตองและความสมเหตุสมผลของคําตอบที่ได (2) ขั้นระดมสมอง ระดับกลุมยอย เปนขั้นตอนที่นักเรียนรวมกลุมและอภิปรายเพื่อหาคําตอบโดยใชขั้นตอนการแกปญหาของโพลยา (3) ขั้นไตรตรอง ระดับกลุมใหญ เปนขั้นที่นักเรียนออกมานําเสนอคําตอบหนาชั้น แสดงความคิดเห็นตามขั้นตอนการแกปญหาของโพลยา โดยผูวิจัยคอยกระตุนดวยคําถามและเสนอแนวทางแกปญหาที่นอกเหนือจากที่นักเรียนนําเสนอเพื่อเปนทางเลือกในการ แกปญหาของนักเรียน 3) ขั้นสรุป เปนการสรุปการเรียนรูและความเขาใจเกี่ยวกับความคิดรวบยอด 4) ขั้นฝกทักษะนักเรียน ฝกทักษะจากแบบฝกทักษะที่มีสถานการณปญหาคลายคลึงกับสถานการณเดิม 5) ขั้นประเมินผล ใชการสังเกตการรวมกิจกรรมใน ชั้นเรียน การตรวจผลงาน หลังจากสิ้นสุดการเรียนในแตละแผนการจัดการเรียนรู
2. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยคิดเปนรอยละ 73.03 และมีนักเรียนที่ผานเกณฑจํานวน 29 คน คิดเปนรอยละ 74.36 ของจํานวนนักเรียนทั้งหมด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแตรอยละ 70 ขึ้นไป
3. นักเรียนมีคะแนนทักษะการคิดวิเคราะห จากการทําแบบวัดทักษะการคิดวิเคราะห ดังนี้ ทักษะการจําแนก นักเรียน มีคะแนนเฉลี่ย 3.03 คิดเปน รอยละ 75.75 ทักษะการเชื่อมโยง นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 2.85 คิดเปน รอยละ 71.25 ทักษะ การประยุกต นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 2.64 คิดเปน รอยละ 66.00 ทักษะการจัดหมวดหมู นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 3.03 คิดเปน รอยละ 75.75 ทักษะการสรุปความ นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 2.79 คิดเปน รอยละ 69.75 ซึ่งนักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยทักษะ การจําแนกสูงเปนอันดับหนึ่งและรองลงมาเปน ทักษะการจําแนกทักษะการจัดหมวดหมู ทักษะการเชื่อมโยง ทักษะการสรุปความ และทักษะการประยุกต ตามลําดับ