การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ร่วมกับแนวคิดการสืบเสาะหาความรู้ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
Main Article Content
บทคัดย่อ
ในยุคการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมดิจิทัลและ Thailand 4.0 การพัฒนาการศึกษาวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะวิชาเคมีมีความสำคัญต่อการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม ผลการเรียนรู้ยังไม่น่าพอใจ จึงจำเป็นต้องปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยบูรณาการทฤษฎีการสร้างความรู้ การสืบเสาะหาความรู้ และเทคโนโลยีดิจิทัล การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ สร้างและพัฒนา ทดลองใช้ และประเมินปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ร่วมกับแนวคิดการสืบเสาะหาความรู้ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์การวิจัยใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา 4 ระยะตามวัตถุประสงค์ ดำเนินการกับกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย ๑ จำนวน 27 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือประกอบด้วยแบบสอบถาม แบบประเมิน และแบบวัดต่างๆ วิเคราะห์ข้อมูลแบบผสมผสานทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ผลการวิจัยพบว่าสภาพปัจจุบันอยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ย 3.20) ขณะที่สภาพที่พึงประสงค์อยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย 4.77) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น "APACIEF-DAS Model" มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด มีประสิทธิภาพ 81.94/81.85 ค่าดัชนีประสิทธิผล 0.7201 นักเรียนร้อยละ 85.19 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความสามารถในการแก้ปัญหา และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 และมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด APACIEF-DAS Model เป็นนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลกับทฤษฎีการสร้างความรู้และการสืบเสาะอย่างเป็นระบบ สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา และสอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 และการขับเคลื่อนสู่สังคมดิจิทัล
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.