ปัจจัยสมรรถนะครูที่ส่งผลต่อความเป็นองค์การสมรรถนะสูงของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25

Main Article Content

จินตนา เหล็กเจ๊ก
ถนอมวรรณ ประเสริฐเจริญสุข

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับปัจจัยสมรรถนะครู และระดับการเป็นองค์การสมรรถนะสูงของโรงเรียน 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยสมรรถนะครูกับการเป็นองค์การสมรรถนะสูงของโรงเรียน 3) เพื่อ
ศึกษาปัจจัยสมรรถนะครูที่ส่งผลต่อความเป็นองค์การสมรรถนะสูงของโรงเรียน การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย (Descriptive Research) กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้บริหารสถานศึกษา 84 คน และครู จำนวน 351 คน โดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่า 5 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลสถิติพื้นฐานด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป วิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบมีขั้นตอน (Stepwise Multiple Regression Analysis) ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับสมรรถนะครู โดยภาพรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมาก โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดลำดับแรก คือ ด้านจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพครู รองลงมาคือ ด้านการพัฒนาผู้เรียน ด้านการวัดและประเมินผลการศึกษา
ด้านการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ ด้านการสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือกับชุมชนเพื่อการจัดการเรียนรู้ ด้านการบริหารจัดการชั้นเรียน อันดับสุดท้ายคือ ด้านภาษาและเทคโนโลยีสำหรับครู 2) ระดับความเป็นองค์การ
สมรรถนะสูงของโรงเรียน โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดลำดับแรกมี 2 ด้าน คือ ด้านมาตรฐานสูงในด้านวิชาการและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและด้านสภาพแวดล้อมสนับสนุนการเรียนรู้ รองลงมาคือด้านการมีวิสัยทัศน์ร่วม การมุ่งเน้นการเรียนรู้ของผู้เรียน ด้านมุ่งเน้นพัฒนาวิชาชีพที่ส่งผลต่อการเรียนการสอน การนำองค์การอย่างมีประสิทธิผล ทำงานเป็นทีมสื่อสารร่วมมือกันในระดับสูง หลักสูตรการสอนและการประเมินเชื่อมโยงประสิทธิผลการติดตามความก้าวหน้าด้านการเรียนการสอนเพื่อผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน ด้านภาษาและเทคโนโลยีสำหรับครู อันดับสุดท้ายคือ การร่วมมือกับครอบครัวและชุมชนในระดับสูงเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ 3) ปัจจัยสมรรถนะครูที่ส่งผลต่อความเป็นองค์การสมรรถนะสูงของโรงเรียน 6 ด้าน คือ ด้านการพัฒนาผู้เรียน ด้านการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ ด้านการบริหารจัดการชั้นเรียน ด้านจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพครู ด้านภาษาและเทคโนโลยีสำหรับครูด้านการสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือกับชุมชนเพื่อการจัดการเรียนรู้ สามารถพยากรณ์ได้ว่าส่งผลต่อความเป็นองค์การสมรรถนะสูงของโรงเรียนมัธยมศึกษา ได้ร้อยละ 63.40 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5 สามารถสร้างสมการถดถอยโดยการคำนวณหาค่าสัมประสิทธิ์การถดถอยของตัวพยากรณ์ที่อยู่ในรูปคะแนนดิบ (B) และคะแนนมาตรฐาน (ß) ดังนี้
สมการในรูปคะแนนดิบ
Ŷi = 0.575 + 0.251(X7) + 0.195(X1) + 0.078(X3) + 0.163(X2) + 0.098(X6) + 0.076(X4)
สมการพยากรณ์ในรูปแบบคะแนนมาตรฐาน
= 0.308(ZX7) + 0.180(ZX1) + 0.094 (ZX3) ZX2) ZX6) ZX4)

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
[1]
เหล็กเจ๊ก จ. และ ประเสริฐเจริญสุข ถ., “ปัจจัยสมรรถนะครูที่ส่งผลต่อความเป็นองค์การสมรรถนะสูงของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25”, JILS, ปี 12, ฉบับที่ 2, น. 9–20, มิ.ย. 2018.
ประเภทบทความ
บทความวิจัย (Research article)

เอกสารอ้างอิง

กมลชนก ภาคภูมิ และคณะ. (2558). การพัฒนารูปแบบสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อรองรับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน. สักทอง : วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์(สทมส.), 21(1), 105-118.
จันทรรัตน์ สิทธิสมจินต์. (2559). การพัฒนาแนวทางการจัดการนวัตกรรมที่ส่งผลต่อโรงเรียนสมรรถนะสูง. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฏีบัณฑิต. สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
นุชนรา รัตนศิระประภา. (2557). ศึกษาสมรรถนะของผู้บริหารที่ส่งผลต่อคุณลักษณะโรงเรียนมาตรฐานสากล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารวิชาการ VeridianE- Journal. 7(3), 507-508.
บุญชู สุนธงศิริ. (2557). ภาวะผู้นำ ที่ส่งผลต่อองค์การที่มีสมรรถนะสูงของสถานศึกษาในสังกัดสำ นักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 27. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร มหาบัณฑิต. สาขาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
พิมพันธ์ เดชะคุปต์. (2558). การจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มานะ สินธุวงษานนท์. (2550). ปัจจัยส่งเสริมการจัดการศึกษาที่ส่งผลต่อคุณภาพนักเรียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.วารสารศึกษาศาสตร์, 18(2),115-128.
เวียงวิวรรธน์ ทำทูล. (2557). ภาวะผู้นำ เชิงนวัตกรรมของผู้บริหารที่ส่งผลต่อองค์การขีดสมรรถนะสูงของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 21.วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยขอนแก่น.
สงวนพงศ์ ชวนชม. (2557) . ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารงานวิชาการกับประสิทธิผลของสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา. วารสารวิชาการสมาคมสถาบันอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย (สสอท.), 20(2), 59-68.
สมจิตร อุดม. (2556). สมรรถนะของครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ส่งผลต่อการสร้าง ความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชนในจังหวัดภาคใต้. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ.
สุรเดช อนันตสวัสดิ์. (2554). โมเดลเชิงเหตุและผลของสมรรถนะครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชาการบริหารการศึกษาบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุริยะ ทวีบุญญาวัตร. (2559). รูปแบบองค์การสมรรถนะสูงของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. Veridian Journal, 9(1), 795-814.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2551). สมรรถนะครูและแนวทางการพัฒนาครูในสังคมที่เปลี่ยนแปลง. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิก.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2552). ระบบโรงเรียนคุณภาพระดับโลก ขึ้นมาสู่ความเป็นโรงเรียนคุณภาพชั้นนำ ได้อย่างไร. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิก.
สำนักงานเลขาธิการการศึกษา. (2558). ร่างกรอบทิศทางแผนการศึกษาชาติ พ.ศ. 2560-2574. กรุงเทพฯ:
Axix. M. A. (2010). Effects of Demographic Factors and Teachers’competencies on the Achievement of Secondary School Students in Punjab. Journal of educational Research. 13(2), 171-177.
Bergeson. (2007). Nine Characteristics of High-Performing Schools.
Hoy, W. K. and Ferguson, J. (1985). A Theoretical Frame work and Exploration of Organizational Effectiveness in School. Educational Administration Quarterly, 21(2), 121-122.
Karaca, F., Gulfidan, C. and Soner, Y. (2013). A path model for technology integration Into elementary school settings in Turkey. Computer & Education. 68, 353-365.