ผลของโปรแกรมผสมผสานระหว่างกิจกรรมการออกกำลังกายและการฝึกทักษะบาสเกตบอล ที่มีต่อค่าดัชนีมวลกาย เปอร์เซ็นต์ไขมันและสมรรถภาพทางกาย ของนักเรียนที่มีภาวะอ้วนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมผสมผสานระหว่างกิจกรรมการออกกำลังกายและการฝึกทักษะบาสเกตบอลที่มีต่อค่าดัชนีมวลกาย ค่าเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย และสมรรถภาพทางกายในนักเรียนที่มีภาวะอ้วน กลุ่มเป้าหมายในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 18 คน (ชาย 5 คน และหญิง 13 คน) ปีการศึกษา 2561 ที่มีภาวะอ้วน โดยได้มาจากการเลือกแบบเฉพาะเจาะจงจากนักเรียนที่มีภาวะอ้วนระดับ 1, 2 และ 3 ของแต่ละห้องจาก 12 ห้องเรียน กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโปรแกรมการฝึกที่ผสมผสานระหว่างกิจกรรมการออกกำลังกายและการฝึกทักษะบาสเกตบอลเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 ครั้ง กลุ่มเป้าหมายได้รับการทดสอบค่าดัชนีมวลกาย ค่าเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย และสมรรถภาพทางกายก่อนและหลังการฝึก วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังการฝึกโดยใช้ค่าสถิติที (Dependent t-test) กลุ่มเป้าหมายมีการพัฒนาของค่าดัชนีมวลกาย และสมรรถภาพทางกายในด้านความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ พละกำลัง และความคล่องแคล่วว่องไว (p<.05) ในขณะที่ไม่พบความเปลี่ยนแปลงของค่าเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายและสมรรถภาพทางกายด้านความเร็ว (p>.05) ภายหลัง 8 สัปดาห์ โดยสรุป โปรแกรมผสมผสานระหว่างกิจกรรมการออกกำลังกายและการฝึกทักษะบาสเกตบอลสามารถช่วยพัฒนาค่าดัชนีมวลกายและสมรรถภาพทางกายในด้านที่สำคัญของนักเรียนที่มีภาวะอ้วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และโปรแกรมมีความเหมาะสมสำหรับการนำไปประยุกต์ใช้เป็นกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพและปลูกฝังทัศนคติของนักเรียนที่มีภาวะอ้วนที่มีต่อการออกกำลังกายและเล่นกีฬา
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2558). แนวทางการคัดกรองส่งต่อและแก้ปัญหาเด็กอ้วนกลุ่มเสี่ยงใน
สถานศึกษา สถานบริการสาธารณสุขและคลินิก DPAC. กรุงเทพฯ: องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.
กิตติ ปรมัตถผล. (2557). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิชาสุขศึกษา ม.1. กรุงเทพฯ: เอมพันธ์.
ชูศักดิ์ เวชแพศย์ และกันยา ปาละวิวัธน์. (2536). สรีรวิทยาการออกกำลังกาย. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: ธรรกมลการพิมพ์.
เทพประสิทธิ์ กุลธวัชชัย. (2555). เทคนิคและทักษะกีฬาบาสเกตบอล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มโน มาพะเนาว์. (2550). แบบฝึกแบบสถานี เพื่อเสริมสร้างทักษะบาสเกตบอลและสมรรถภาพทางกายสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
วรศักดิ์ เพียรชอบ. (2525). การออกกำลังกายสำคัญไฉน. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช.
สว่างจิต แซ่โง้ว. (2551). ผลการฝึกการออกกำลังกายแบบวงจรที่มีต่อสุขสมรรถนะของเด็กที่มีน้ำหนักเกิน. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตรการกีฬา บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อภิศิษฎ์ เสน่ห์วงศ์. (2558). ผลของการละเล่นพื้นเมืองไทยประยุกต์ที่มีผลต่อสมรรถภาพทางและ ดัชนีมวลกายกาย ของนักเรียนที่มีภาวะน้ำหนักเกิน ของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี. วิทยานิพนธ์ปริญญา ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
Bar-Or, O., & Baranowski, T. (1994). Physical activity, adiposity, and obesity among adolescents. Pediatric Exercise Science, 6(1), 348–360.
Bouchard, C., Blair, S. N., & Haskell, W. L. (2007). Physical Activity and Health. 2nd ed. Champaign: Human Kinetics.
Davis, C. L., Pollock, N. K., Waller, J. L., Allison, J. D., Dennis, B. A., Bassali, R., et al. (2012). Exercise dose and diabetes risk in overweight and obese children: A randomized controlled trial. Journal of the American Medical Association, 308(1), 1103–1112.
Epstein, L. H., Coleman, K. J., & Myers, M. D. (1996). Exercise in treating obesity in children and adolescents. Medicine and Science in Sports and Exercise, 28(4), 428–435.
Faigenbaum, A. D. (2007). State of the art reviews: Resistance training for children and adolescents: Are there health outcomes? American Journal of Lifestyle Medicine, 1(3), 190–200.
Faigenbaum, A. D., Kraemer, W. J., Blimkie, C. J. R., Jeffreys I., Micheli, L. J., Nitka, M., et al. (2009). Youth resistance training: updated position statement paper from the National Strength and Conditioning Association. Journal of Strength and Conditioning Research, 23(5), S60–S79.
Kenny, W. L., Wilmore, J. H., & Hostiel, D. L. (2012). Physiology of Sport and Exercise. 5th ed.
Champaign (IL): Human Kinetics.
Lee S., Bacha F., Hannon T., Kuk J. L., Boesch C., & Arslanian, S. (2012). Effects of aerobic versus resistance exercise without caloric restriction on abdominal fat, intrahepatic lipid, and insulin sensitivity in obese adolescent boys: A randomized, controlled trial. Diabetes, 61(11), 2787–2795.
Malina R., Bouchard C., Bar-Or O., (eds). (2004) Growth, Maturation and Physical Activity. 2nd ed. Champaign, IL: Human Kinetics.
McBride, J. M., Triplett-McBride, T., Davie, A., & Newton. R. U. (2002). The effect of heavy- vs. light-load jump squats on the development of strength, power, and speed. Journal of Strength and Conditioning Research, 16(1), 75–82.
Ozmun, J. C, Mikesky, A. E., Surburg, P. (1994). Neuromuscular adaptations following prepubescent strength training. Medicine and Science in Sports and Exercise, 26(4), 510–514.
Park, J., Miyashita, M., Kwon, Y., Park, H., Kim, E., Park, J., et al. (2012). A 12-week after-school physical activity programme improves endothelial cell function in overweight and obese children: A randomized controlled study. BMC Pediatrics, 12, 111.
Shaibi, G. Q., Cruz, M. L., Ball, G. D., Weigensberg, M. J., Salem, G. J., Crespo, N. C., et al. (2006).
Effects of resistance training on insulin sensitivity in overweight Latino adolescent males. Medicine and Science in Sports and Exercise, 38(7), 1208–1215.
Vasconcellos, F., Seabra, A., Cunha, F., Montenegro, R., Penha, J., Bouskela, E., et al. (2015). Health markers in obese adolescents improved by a 12-week recreational soccer program: a randomised controlled trial. Journal of Sports Sciences, 34(6), 564–575.
World Health Organization. (2010). Population-based prevention strategies for childhood obesity: report of a WHO forum and technical meeting, Geneva, 15-17 December 2009. Geneva: World Health Organization. Retrieved March 10, 2018, from http://www.who.int/iris/handle/10665/44312
Young, W. B., McDowell, M. H., & Scarlett, B. J. (2001). Specificity of sprint and agility training methods. Journal of Strength and Conditioning Research, 15(3), 315–319.
