คุณภาพการบริการทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มีผลต่อความจงรักภักดีของผู้ใช้บริการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเสริมไทยคอมเพล็กซ์ มหาสารคาม
คำสำคัญ:
คุณภาพบริการทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์, ความจงรักภักดี, ธนาคารกรุงศรีอยุธยาบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาคุณภาพการบริการทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเสริมไทยคอมเพล็กซ์ มหาสารคาม 2. เพื่อศึกษาความจงรักภักดีของผู้ใช้บริการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเสริมไทยคอมเพล็กซ์ และ 3. เพื่อศึกษาคุณภาพการบริการทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มีผลต่อความจงรักภักดีของผู้ใช้บริการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเสริมไทยคอมเพล็กซ์ มหาสารคาม เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีเครื่องมือการวิจัย คือ แบบสอบถาม โดยมีกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 385 คน ที่มาจากสูตรของ Cochran (1953) แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากแบบสอบถามมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ประกอบด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาค่าสหสัมพันธ์พหุคูณ และการวิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุแบบขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า 1) คุณภาพการบริการทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ใช้บริการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเสริมไทยคอมเพล็กซ์ มหาสารคาม โดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (x̅= 4.71, S.D.= 0.49) 2) ผู้ใช้บริการธนาคารกรุงศรีอยุธยาสาขาเสริมไทยคอมเพล็กซ์ มหาสารคามมีความคิดเห็นเกี่ยวกับความจงรักภักดี โดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (x̅= 4.54, S.D.= 0.60) และ 3) การบริการทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มีผลต่อความจงรักภักดีของผู้ใช้บริการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเสริมไทยคอมเพล็กซ์ มหาสารคาม พบว่า การตอบสนองความต้องการ (RES) มีค่า r = 0.624 การให้ความมั่นใจแก่ลูกค้า (ASS) มีค่า r = 0.517 ความน่าเชื่อถือ (REL) มีค่า r = 0.727 ลักษณะภายนอกที่เป็นรูปธรรม (TAN) มีค่า r = 0.705 และการเข้าใจ การเอาใจใส่ (EMP) มีค่า r = 0.700 มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความจงรักภักดี( LOY) ของผู้ใช้บริการธนาคารกรุงศรีอยุธยา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
