ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในจังหวัดร้อยเอ็ด

บทคัดย่อ

การศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผงต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในจังหวัดร้อยเอ็ด 2. เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และ 3. เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีเครื่องมือการวิจัย คือ แบบสอบถาม มีกลุ่มตัวอย่าง คือ คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 175 คน โดยการใช้สูตรของทาโร ยามาเน่ แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้มาวิเคราะห์ในสถิติการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ความถี่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในจังหวัดร้อยเอ็ด โดยรวมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 3.99) 2) ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ได้แก่ ปัจจัยด้านภาวะผู้นำของคณะกรรมการ และปัจจัยด้านการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ โดยค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณเท่ากับ .785 สามารถร่วมกันอธิบายการผันแปรได้ ร้อยละ 61.60 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) ข้อเสนอแนะ ประกอบด้วย 3.1) ควรร่วมกันเสริมสร้างความเป็นผู้นำให้ทุก ๆ คน เสนอแนะความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ 3.2) ควรมีการใช้เทคโนโลยีในการประชุม VDO Conference ร่วมกับภาคีเครือข่าย หรือส่วนราชการต่าง ๆ 3.3) ควรจัดอบรมให้ความรู้และแนะนำคู่มือในการปฏิบัติงานให้แก่คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี 3.4) ควรสนับสนุนด้านงบประมาณในการประชุมอย่างเพียงพอ 3.5) ควรจัดพี่เลี้ยงในการให้คำปรึกษาแก่กองทุน มีการระดมความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน และ 3.6) ควรมีการเชื่อมโยงการทำงานในระดับเครือข่ายของตำบล อำเภอ และจังหวัด