มาตรการทางกฎหมายเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคในระดับท้องถิ่น
คำสำคัญ:
มาตรการทางกฎหมาย, การคุ้มครองผู้บริโภค, ระดับท้องถิ่นบทคัดย่อ
บทความวิชาการนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษามาตรการทางกฎหมายเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคในระดับท้องถิ่น 2. เพื่อวิเคราะห์มาตรการทางกฎหมายเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคในระดับท้องถิ่น และ 3. เพื่อเสนอแนะการพัฒนามาตรการทางกฎหมายเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคในระดับท้องถิ่น ซึ่งจะทำการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง อาทิ ตำรากฎหมาย บทความวิชาการ วิทยานิพนธ์ รายงานการวิจัย ตัวบทกฎหมายและคำพิพากษาของศาลที่เกี่ยวข้องกับมาตรการทางกฎหมายเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคในระดับท้องถิ่นแล้วนำมาวิเคราะห์ พบว่า 1) ผู้บริโภคจำนวนมากยังขาดความรู้เกี่ยวกับสิทธิของตนเอง และไม่ทราบถึงช่องทางในการร้องเรียนหรือการดำเนินการทางกฎหมาย แม้จะมีพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 แต่การบังคับใช้ในระดับท้องถิ่นยังไม่เข้มแข็งพอ ทำให้ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคยังคงมีอยู่ การเรียกร้องค่าเสียหายเมื่อเกิดข้อพิพาทกับผู้ประกอบการ มักต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมายที่ซับซ้อน มีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เวลานาน ทำให้ผู้บริโภคท้อถอยและยอมรับความสูญเสีย 2) จากการวิเคราะห์พบว่า ในปัจจุบันมาตรการทางกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคระดับท้องถิ่นในไทยขาดความชัดเจนและประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ทำให้ผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนจากการซื้อสินค้าและบริการที่ไม่เป็นธรรมหรือจากการหลอกลวง และยังคงเผชิญความยากลำบากในการเรียกร้องสิทธิ์และค่าเสียหาย เนื่องจากกระบวนการที่ยุ่งยาก ซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ตกอยู่ในฐานะเสียเปรียบและไม่ได้รับความเป็นธรรม แม้การปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับการแต่งตั้งให้มีอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติงานตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคในเขตพื้นที่ของตนก็ตาม และ 3) เสนอแนะการพัฒนาและส่งเสริมให้หน่วยงานท้องถิ่น เป็นศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภค เพื่อให้ประชาชนได้รับความคุ้มครองอย่างมีระบบ มีการพัฒนามาตรการทางกฎหมายเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคระดับท้องถิ่น เน้นการปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพิ่มกลไกการรับเรื่องร้องเรียนและแก้ไขปัญหาให้รวดเร็ว จัดตั้งกองทุนเยียวยาความเสียหายในท้องถิ่นโดยเฉพาะจากอาชญากรรมออนไลน์ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมและเครือข่ายผู้บริโภคและพัฒนาฐานข้อมูลเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงนโยบายและมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคที่ทันต่อสถานการณ์
