การพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษด้วยขั้นตอนการเขียนของบรู๊คส์และวิทโธรของนักศึกษามหาวิทยาลัย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลที่ได้จากการจัดการเรียนการสอนเขียนด้วยขั้นตอนการเขียนของบรู๊คส์และวิทโธร ในการพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษของนักศึกษา
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1ที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชาการเขียนทั่วไป ในภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 38 คน ซึ่งเป็นการสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้นี้ประกอบด้วย 1) แบบฝึกหัดการเขียนด้วยขั้นตอนการเขียนของบรู๊คส์และวิทโธร 10 ขั้นตอน จำนวน 30 แบบฝึกหัด 2) แบบทดสอบการเขียนด้วยขั้นตอนการเขียนของบรู๊คส์และวิทโธรจำนวน 10 ชุด 3)แบบทดสอบการเขียนเชิงอิสระจำนวน 3 ชุด และ 4) แบบประเมินกิจกรรมการเขียนด้วยขั้นตอนการเขียนของบรู๊คส์และวิทโธร สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วยค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาวิจัยสรุป แสดงให้เห็นว่า ขั้นตอนการเขียนของบรู๊คส์และวิทโธรสามารถพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษของนักศึกษาในกลุ่มทดลองมีคะแนนรวมสูงกว่าร้อยละ 60 และนักศึกษามีความพึงพอใจต่อการเรียนการสอนในการทดลองนี้ในระดับมากที่สุด
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ของผู้เรียนโดยใช้กระบวนการสอนเขียนตามรูปแบบการเขียนของ Brookes และ Withrow. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ผัสสพรรณ วิวัฒนศานต์. 2543. การพัฒนาความสามารถในการเขียนภาษาอังกฤษ โดยการใช้กระบวนการสอนเขียนตามแนวคิดของบรู๊คส์และวิทโธร. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Arapoff, N. 1975. Writing a thinking Process. EnglishTeaching Forum 13 (March-May): 233-237.
Brookes,G., and Withrow.J. 1980. 10 Steps Controlled Composition for Beginning and Intermediate Language Development. 2nd ed.Englewood Cliffs, New Jersey: Prentice Hall.
Haris, D. P. 1969. Teaching English as a SecondLanguage. New York: McGraw- Hill Book Company.
Lado, L. 1964. Language Teaching. London: McGraw-Hill Book Company.
Paulston, C. B. and Dykstra, G. 1973. Controlled Composition in English as a Second Language.
New York: Regent Publishing.