สัญญาประชาคมยามอำนาจใกล้สูญสิ้น

Main Article Content

พระครูวรจิตตานุรักษ์
พิชิต กันยาวรรณ
วรเชษฐ์ โทอื้น

บทคัดย่อ

ปรากฎการณ์ทางการเมืองอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในการเมืองไทย คือ ในยามเริ่มขึ้นมาบริหารประเทศ มีอำนาจมหาศาล ผู้บริหารประเทศมักมองว่าตนเองเก่งเหนือผู้อื่นทั้งปวง ไม่สนใจรับฟังความคิดผู้ใด ปิดกั้นการมีส่วนร่วม มองผู้คิดต่างเป็นศัตรู และมักตัดสินใจตามความต้องการของตนเองเป็นหลัก ครั้นล่วงมาถึงในยามที่อำนาจใกล้สูญสิ้นกลับพยายามปรับเปลี่ยนความคิด เปิดกว้าง สร้างการมีส่วนร่วม แต่ก็มักจะสายเกินไป นอกจากวิกฤตโควิดแล้วอาจมีปัจจัยอื่นที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงความคิดของนายกรัฐมนตรีอยู่ไม่น้อยนั่นคือกระแสความเบื่อหน่ายของประชาชนเกี่ยวกับเกมการเมืองแบบเก่าของพรรคร่วมรัฐบาลที่ยังหมกมุ่นอยู่กับการแย่งชิงตำแหน่งอำนาจและผลประโยชน์เป็นหลัก โดยมิได้คำนึงถึงสถานการณ์ที่เป็นปัญหาภายในประเทศแต่อย่างใด เห็นได้จากการเล่นเกมการเมืองแย่งชิงตำแหน่งกันภายในพรรค การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่วิพากษ์การครอบงำของกลุ่มอำนาจนำในสังคมก็ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ความรู้สึกของรัฐบาลไม่น้อยทีเดียว รวมทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในการวิพากษ์วิจารณ์ระบบอภิสิทธิ์ชน การบริหารประเทศแบบรวมศูนย์อำนาจ การปิดกั้นเสรีภาพและการกีดกันการมีส่วนร่วมของประชาชน การเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้มีรูปแบบผสมผสานทั้งการเคลื่อนไหวแบบดั้งเดิม ดังนั้น เมื่อหากรัฐบาลสร้างความหวังและให้สัญญาประชาคมแล้ว หากรัฐบาลไม่รักษาสัญญาในครั้งนี้ อนาคต ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของรัฐบาลคงหมดสิ้นไป แต่หากสามารถรักษาสัญญาและทำได้จริงดังที่ประกาศเอาไว้ ความทรงจำของสังคมที่มีต่อรัฐบาลหลังหมดสิ้นอำนาจก็จะแตกต่างออกไป

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิชาการ