การบริหารบุคคลตามหลักไตรสิกขาของโรงเรียนอนุบาลในจังหวัดนครสวรรค์

Main Article Content

ปารเมธ พรมเพียร, ประเทือง ภูมิภัทราคม, วรกฤต เถื่อนช้าง

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาการบริหารบุคคลตามหลักไตรสิกขาของโรงเรียนอนุบาลในจังหวัดนครสวรรค์ 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารบุคคลตามหลักไตรสิกขาของโรงเรียนอนุบาลในจังหวัดนครสวรรค์ ของผู้บริหารและครูโดยจำแนกตาม เพศ อายุ ตำแหน่ง ประสบการณ์ในการทำงาน


ประชากรที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ผู้บริหารและครูโรงเรียนอนุบาลในจังหวัดนครสวรรค์ 16 โรงเรียน จำนวน 595 คน ผู้วิจัยได้กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของ ทาโร่ยามาเน่ จากนั้นสุ่มกลุ่มตัวอย่างอย่างง่าย ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 244 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารบุคคลตามหลักไตรสิกขาของโรงเรียนอนุบาลในจังหวัดนครสวรรค์ 4 ด้านประกอบด้วย ด้านการวางแผนงานบุคคลตามหลักไตรสิกขา ด้านการจัดบุคคลเข้าทำงานตามหลักไตรสิกขา ด้านการดำรงรักษาบุคคลตามหลักไตรสิกขาและด้านการวัดผลการปฏิบัติงานของบุคคลตามหลักไตรสิกขา


ผลการวิจัยพบว่าความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารบุคคลตามหลักไตรสิกขาของผู้บริหารและครูโรงเรียนอนุบาลในจังหวัดนครสวรรค์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก(= 4.30,SD=0.63)และเมื่อเปรียบเทียบเป็นรายด้านพบว่าความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารบุคคลตามหลักไตรสิกขาของผู้บริหารและครูโรงเรียนอนุบาลในจังหวัดนครสวรรค์อยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อยดังนี้ ด้านการดำรงรักษาบุคคลตามหลักไตรสิกขา (= 4.35,SD=0.62) ด้านวัดผลการปฏิบัติงานของบุคคลตามหลักไตรสิกขา (= 4.32,SD=0.60) ด้านการวางแผนงานบุคคลตามหลักไตรสิกขา(= 4.29,SD=0.68) และด้านการจัดบุคคลเข้าทำงานตามหลักไตรสิกขา (= 4.27,SD=0.63)


เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลตามหลักไตรสิกขาของผู้บริหารและครูของโรงเรียนอนุบาลในจังหวัดนครสวรรค์ตามเพศ,อายุ ตำแหน่ง และประสบการณ์ในการทำงานพบว่า ผู้บริหารและครูที่มีเพศต่างกันมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารบุคคลตามหลักไตรสิกขาต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 ในด้านการวางแผนงานบุคคลตามหลักไตรสิกขา ด้านการจัดวางบุคคลเข้าทำงานตามหลักไตรสิกขาและด้านวัดผลการปฏิบัติงานของบุคคลตามหลักไตรสิกขา ส่วนด้านการดำรงรักษาบุคคลตามหลักไตรสิกขาไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 ผู้บริหารและครูที่มีอายุต่างกันมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลตามหลักไตรสิกขาต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 ทุกด้าน ผู้บริหารและครูที่มีตำแหน่งต่างกันมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลตามหลักไตรสิกขาต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05ในด้านการวางแผนงานบุคคลตามหลักไตรสิกขา ส่วนด้านการจัดบุคคลเข้าทำงานตามหลักไตรสิกขา ด้านการดำรงรักษาบุคคลตามหลักไตรสิกขา และด้านการวัดผลการปฏิบัติงานของบุคคลตามหลักไตรสิกขาไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 และผู้บริหารและครูที่มีประสบการณ์ ในการทำงานต่างกันมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลตามหลักไตรสิกขาต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 ทุกด้าน

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย (Research Articles)