แนวการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 2

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพ และหาแนวการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาใน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 2 มีวิธีดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 2 ขั้นตอน คือ 1) ศึกษาสภาพการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มประชากร ได้แก่ ผู้บริหาร ครู และ จำนวน 297 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.96 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2) หาแนวทางการบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา โดยการจัดประชุมสนทนากลุ่มใช้การวิเคราะห์เนื้อหา

          ผลการวิจัย พบว่า สภาพการบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาใน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 2 โดยรวมมีการบริหารอยู่ในระดับมาก ด้านที่มีการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลสูงสุด คือ หลักความโปร่งใส รองลงมาคือ หลักความรับผิดชอบ ด้านหลักนิติธรรม ด้านหลักความคุ้มค่า หลักการมีส่วนร่วม และด้านที่มีการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลต่ำที่สุดคือ ด้านหลักการมีคุณธรรม และแนวทางการบริหารการบริหารตามหลักธรรมาภิบาล มีแนวทางการดำเนินงานที่สำคัญคือ สร้างความตระหนัก เกี่ยวกับ แนวทางปฏิบัติตนที่ถูกต้องตามกฎ ระเบียบข้อบังคับ ความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ของครูและบุคลกรทางการศึกษา จัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการแนวทางปฏิบัติตนที่ถูกต้องตามกฎ ระเบียบข้อบังคับ เปิดโอกาสให้ผู้ที่ได้รับการร้องทุกข์ อุทธรณ์ของบุคลากรทางการศึกษาที่กระทำความผิดภายใต้กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ได้ชี้แจง จัดทำแผนปฏิบัติการ การบริหารงบประมาณ ตรวจสอบและรายงานการบริหารงบประมาณเป็นไปตามแผนปฏิบัติการ เปิดโอกาสให้คณะกรรมการสถานศึกษา มีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ประชุม ชี้แจง เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือสนับสนุน ในการปฏิบัติงาน ของครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ขวัญและกำลังใจ จากการปฏิบัติงานของบุคลกรทางการศึกษา ตามโอกาสอันสมควร สร้างความตระหนักถึงการบริหารจัดการสถานศึกษา มีระบบติดต่อประสานงาน มีความรวดเร็วในการทำงานที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดขั้นตอนการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อลดขั้นตอนในการติดต่อประสานงาน และติดตามการใช้ทรัพยากรให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ