การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดนตรีสากลโดยใช้แบบฝึกทักษะ การอ่านค่าความสั้น-ยาวของตัวโน้ตดนตรีสากลด้วยตัวเลข ขั้นพื้นฐาน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเมืองนครราชสีมา
Main Article Content
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)พัฒนาและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านค่าความยาว-สั้นของตัวโน้ตสากลด้วยตัวเลขขั้นพื้นฐานของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามเกณฑ์ 80/80 และ 2) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วย แบบฝึกทักษะการอ่านค่าความยาว-สั้นของตัวโน้ตสากลด้วยตัวเลขขั้นพื้นฐานกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/7 โรงเรียนเมืองนครราชสีมา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 49 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบฝึกทักษะ และแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที ผลการวิจัยพบว่า แบบฝึกทักษะการอ่านค่าความยาว-สั้นของตัวโน้ตสากลด้วยตัวเลขขั้นพื้นฐาน มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.03 / 80.55 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านค่าความยาว-สั้นของตัวโน้ตสากลด้วยตัวเลขขั้นพื้นฐาน สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01
The purposesof this research were 1) to develop and study the efficiency of basic digit-basednote duration reading exercise for Prathomsuksa 6 Students at MueangNakhonratchasima schoolon basis of 80/80 criteria and 2) to study the students’ achievement after using basic digit-basednote duration reading exercise. The research sample included 49 Prathomsuksa 6 students who were studying in the second semester, academic year 2012 at MueangNakhonratchasima School. The research instruments consisted ofbasic digit-basednote duration reading exercise and achievement test. Data were statistically analyzed in percentage, mean, standard deviation, and t-test. The findings revealed as follows: The efficiency of basic digit-basednote duration reading exercise measured 82.03 / 80.55which was higher than the criteria of 80/80. And the students’ achievement after learning through basic digit-basednote duration reading exercise was significantly higher (p<.01)
Article Details
Content and information in articles published in the Journal of Fine and Applied Arts of Khon Kaen University is regarded as the opinion and sole responsibility of the author(s) directly; therefore, editors are not obliged to agree to or share any responsibility with regard to the content and information that appears within these articles.
All articles, information, content, image, etc. that have been published in the Journal of Fine and Applied Arts of Khon Kaen University is the copyright of the Journal of Fine and Appllied Arts of Khon Kaen University. Any person or organization who wishes to distribute all or parts of the articles for further dissemination or other usage must first receive permission from the Journal of Fine and Applied Arts of Khon Kaen University before proceeding to do so.