การศึกษาพัฒนาการภูมิปัญญา ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม สมัยทวารวดีอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยเรื่อง “การศึกษาพัฒนาการภูมิปัญญา ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม สมัยทวารวดีอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี” มีวัตถุประสงค์ ประกอบด้วย เพื่อศึกษาการพัฒนาการภูมิปัญญา ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม สมัยทวารวดี จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อวิเคราะห์ภูมิปัญญา ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม สมัยทวารวดีอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี และ เพื่อสร้างรูปแบบและนำเสนอการศึกษาพัฒนาการภูมิปัญญา ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม สมัยทวารวดีอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ผู้วิจัยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก (in-depth interview) เก็บข้อมูลเชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ โดยใช้วิธีคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 14 คน/รูป และสนทนากลุ่มเฉพาะ (Focus Group Discussion) กลุ่มพระสงฆ์ที่มีความเชียวชาญเกี่ยวกับทวารวดี, กลุ่มนักวิชาการเฉพาะทางที่เกี่ยวข้อง และ กลุ่มชาวบ้านที่มีความรู้เรื่องทวารวดี ทั้งสิ้น 9 คน/รูป เพื่อนำไปสู่การสะท้อนคิด เพื่อยืนยันข้อมูล ผลการวิจัยพบว่า
1) ผลการศึกษาการพัฒนาการภูมิปัญญา ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมสมัยทวารวดี จังหวัดสุพรรณบุรี พบว่า สมัยทวารวดีเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของประวัติศาสตร์ไทยที่เต็มไปด้วยการเจริญรุ่งเรือง ซึ่งชาวทวารวดีจะเน้นการสร้างวัดและศาสนสถานเพื่อสืบสานความเชื่อและสร้างสรรค์ศิลปะในยุคนั้น ศิลปะ ซึ่งเป็นภาพที่สะท้อนความเจริญมาจากการสร้างปราสาท วัด และพระพุทธรูปที่เป็นศูนย์กลางในการปฏิบัติธรรมและสร้างความเชื่อให้แก่ประชาชน 2) ผลวิเคราะห์ภูมิปัญญา ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม สมัยทวารวดีอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี พบว่า การเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเพื่อปฏิบัติธรรม แสดงให้เห็นว่าพระพุทธรูปมีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่คำสอน และการสร้างเอกลักษณ์และคุณธรรมในสังคม ผ่านการสืบทอดประเพณีศาสนาและตำนานท้องถิ่น ชี้ให้เห็นว่า ศาสนาและประเพณีในสมัยนั้นมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน และเป็นส่วนหนึ่งเพื่อใช้ในการสื่อสารทางสังคม 3) การสร้างรูปแบบและนำเสนอการศึกษาพัฒนาการภูมิปัญญา ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม สมัยทวารวดีอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี พบว่า การเผยแผ่คำสอนทางพระพุทธศาสนาเชื่อมโยงกับการสร้างสถานที่และผลงานศิลป์ และส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูโบราณสถาน ศิลปวัตถุ และศิลปะท้องถิ่น มีผลทางคุณค่าทางจิตใจในการเสริมสร้างความเข้าใจและความสงบในสังคมปัจจุบัน ตลอดจนการสนับสนุนกิจกรรมทางศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สมัยทวารวดีอู่ทองที่มีการสร้างสรรค์ในการสร้างชุมชนที่เชื่อมโยงกับศาสนา สะท้อนถึงธรรมชาติ วัฒนธรรม และสถานการณ์สังคมท้องถิ่น ทั้งนี้เพื่อสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
Kanjira Wichitrawachararak (2022). Strategy for developing activities and tourist routes in the Dvaravati period in Nakhon Pathom Province. Journal of Social Science and Buddhist Anthropology, 7 (12).
Prichawut Aphirating (2018). Illustration of the Reclining Buddha in Isan Dvaravati Art. Journal of Fine Arts, Khon Kaen University. 10 (2). July-December.
Mano Phisutthirattanon (2004). Aesthetic Criticism in Thai Painting. Bangkok: Odeon Store.
Lekprapai Viriyaphan Foundation (2023). Dvaravati – Srivijaya: A Review of Meaning. Retrieved from https://lek-prapai.org/home/view.php?id=889.
Wacharin Buachan (2011). Study on the Land of the Power of Faith. Bachelor of Fine Arts Thesis. Nakhon Pathom: Faculty of Painting, Sculpture and Graphic Arts, Silpakorn University.
Wachirawon Sinbuathong (2023). Development of Souvenir Clay Dolls from Dvaravati Art. Design Echo Journal. 4 (1). January – June.
Wikipedia, the free encyclopedia (2023). Culture. Online. Retrieved from: https://th. wikipedia.org/wiki/.
Sasipat Champa and Penphano Puangphae (2017). Traces of Dvaravati Evidence in Nakhon Pathom. Journal of Humanities and Social Sciences. 12 (1) (January–June).
Sritphong Khunsong (n.d.). Pre-Dvaravati Archaeology: New Data from the Ancient City of U Thong, part of the research project on “The Development of U Thong from Archaeological Evidence. Research report. Faculty of Archaeology: Silpakorn University.
Sathien Sarathonghai (2015). Buddhist Art. Phitsanulok: Focus Printing Co., Ltd.
Isara Thiradech et al. (2020). Miscellaneous Arts and Culture Volume 26 Nakhon Pathom Province. Bangkok: Fine Arts Department.
Denzin, N (1970). Sociology: Methodology; Research. New York: Prince Hall.
Jirat Chuanchom (2020). Potential Development of the Dvaravati Civilization-Based Tourist Attractions with Participation of Government and Private Sectors and Community, BU ACADEMIC REVIEW. 19 (1) January-June.
White (n.d.). Why Community Paticipation? A Discussion of the Argumentes. Community Paticipation: Current Issue and Lesson Learned. New York: United Nations Children'S Fund.