ผลของการพัฒนารูปแบบการบำบัดรักษาผู้ติดสารเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน จังหวัดนนทบุรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีอัตราการแพร่ระบาดของยาเสพติดสูง การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการบำบัดรักษาผู้ติดสารเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน และศึกษาผลของการใช้รูปแบบ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ติดสารเสพติดในชุมชนมัสยิดหมู่ที่ 10 ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จำนวน 40 คน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น ผู้นำชุมชน อสม. และหน่วยงานภาครัฐ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลคือ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ และการสังเกต สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงคุณภาพสำหรับข้อมูลเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการบำบัดรักษาผู้ติดสารเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนมีโครงสร้างและกระบวนการดำเนินงานที่เป็นระบบ ประกอบด้วย การแต่งตั้งคณะกรรมการ การจัดทำบันทึกความร่วมมือ การจัดตั้งศูนย์ CBTx และกระบวนการดำเนินงานในศูนย์ที่ครอบคลุมตั้งแต่การค้นหาและคัดกรองผู้ป่วย การให้คำปรึกษาและบำบัด การติดตามผล และการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วย ผลการดำเนินงานพบว่า ผู้ป่วยร้อยละ 27.50 สามารถเลิกใช้ยาเสพติดได้ และอัตราการกลับไปใช้ยาเสพติดลดลงอย่างชัดเจน และชุมชนมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนารูปแบบอยู่ในระดับมาก (𝒙̅ = 4.32, S.D. = 0.57) โดยเฉพาะในมิติร่วมคิด ร่วมดำเนินการ และร่วมรับผลประโยชน์ ปัจจัยแห่งความสำเร็จ ได้แก่ การมีผู้นำชุมชนที่มุ่งมั่นทำหน้าที่เป็นแกนนำในการขับเคลื่อนโครงการ ร่วมกับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น รพ.สต., อบต., และสำนักงาน ปปส. ที่ให้คำแนะนำ สนับสนุนทรัพยากร และส่งเสริมศักยภาพของชุมชน รวมทั้งความร่วมมือจากครอบครัวและชุมชนในการสนับสนุนการฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วย
ข้อเสนอแนะจากการวิจัยครั้งนี้ ควรขยายผลการใช้รูปแบบการบำบัดรักษาผู้ติดสารเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนในพื้นที่อื่น ๆ ที่ประสบปัญหายาเสพติด โดยบูรณาการความร่วมมือจากชุมชน หน่วยงานรัฐ และภาคเอกชน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. (2562). แนวทางการดำเนินงานการบำบัดฟื้นฟูโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนและแนวปฏิบัติที่ดี. นนทบุรี: บริษัท เดอะกราฟิโก ซิสเต็มส์ จำกัด.
นิภาวรรณ ตติยนันทพร. (2565). การมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชนในการป้องกันและบำบัดยาเสพติด อำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9: วารสารส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม. 16 (2), 581-596.
ราศรี อาษาจิตร และสุจิตตา ฤทธ์ิมนตรี. (2566). การพัฒนารูปแบบการบำบัดรักษาผู้ติดสารเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน: กรณีศึกษาชุมชนแห่งหนึ่งในอำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร. วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ. 16 (2), 244-257.
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด. (2564). รายงานผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564. กรุงเทพมหานคร: ส่วนติดตามและประเมินผล สำนักยุทธศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี. (2566). รายงานผลการดำเนินงานบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดจังหวัดนนทบุรี. นนทบุรี: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี.
Best, J. W. (1981). Research in education. (4th ed.). New Jersey: Prentice Hall.
Gibson, C. H. (1991). A concept analysis of empowerment. Journal of Advanced Nursing, 16, 354–361. Available from https://www.scirp.org/(S(vtj3fa45qm1ean45vvffcz55))
Kemmis, S., & McTaggart, R. (1988). The action research planner (3rd ed.). Victoria: Deakin University.
United Nations Office on Drugs and Crime. (2019). 29.5 million people globally suffer from drug use disorders, opioids the most harmful. Retrieved May 30, 2023, from https://www.unodc.org/unodc/en/data-and-analysis/wdr2021.html
World Health Organization. (n.d.). การบำบัดรักษาโดยมีส่วนร่วมของชุมชนสำหรับผู้ใช้ยาเสพติด และติดยาเสพติด. Online. Retrieved fromhttps://www.unodc.org/documents/southeas tasiaandpacific/cbtx/cbtx-brief-TH.pdf