การบริหารจัดการวัดเพื่อความมั่นคงแห่งพระพุทธศาสนาในเขตอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

Main Article Content

พระมหาชัชรินทร์ ชิตบุญ
กัมปนาท วงษ์วัฒนพงษ์
ภาสกร ดอกจันทร์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัญหา อุปสรรค วัดขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ในการบริหารจัดการวัดตามกฎมหาเถรสมาคม ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการวัดตามกฎมหาเถรสมาคม และเพื่อศึกษาแนวทางการบริหารจัดการวัด เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน เชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 400 คน โดยใช้สูตรของทาโร ยามาเน่ สำหรับสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ วิธีแบบขั้นตอน ค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ พระและประชาชน จำนวน 88 รูป/คน คัดเลือกวิธีการแบบเจาะจง ใช้แบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล และทำการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า


1) สภาพปัญหา อุปสรรค วัดขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ พบว่า วัดขนาดเล็ก ขาดการบริหารจัดการที่เป็นระบบ ขาดบุคลากรที่มีทักษะในการบริหารจัดการที่ดี ขาดแคลนทรัพยากรจากภาครัฐหรือองค์กรการกุศลในการสนับสนุนการบริหารจัดการ ขาดพระสงฆ์หรือบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถทำให้การดูแลและจัดการทรัพย์สินหรือการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ไม่เป็นไปตามระเบียบ วัดขนาดกลาง ขาดการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ วัดขนาดกลางอาจมีทรัพยากรมากกว่า แต่ยังขาดการบริหารจัดการที่มีระเบียบและระบบในการจัดการภายในวัด ขาดการประสานงานระหว่างฝ่ายต่างๆ ปัญหาด้านการเงินและการจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสมกับความต้องการในแต่ละด้าน เช่น การเผยแผ่ธรรม การจัดการศึกษา ขาดทักษะในการปฏิบัติตามระเบียบกฎเกณฑ์ แม้ว่าวัดขนาดกลางจะมีบุคลากรจำนวนมาก แต่บางครั้งอาจขาดทักษะในการปฏิบัติตามระเบียบกฎเกณฑ์ที่กำหนดโดยมหาเถรสมาคม เช่น การจัดการการเงิน หรือการดูแลทรัพย์สินตามที่กำหนด วัดขนาดใหญ่ การบริหารจัดการที่ซับซ้อน วัดขนาดใหญ่ที่มีหลายแผนกหรือหลายหน่วยงานทำให้การบริหารจัดการด้านการปกครองซับซ้อน และต้องการการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างแผนกต่างๆ ปัญหาด้านการติดตามผล สามารถทำได้ยาก ปัญหาการจัดสรรทรัพยากรที่ไม่เหมาะสมในบางกรณี ทำให้บางแผนกหรือหน่วยงานอาจได้รับทรัพยากรไม่เพียงพอ การขาดความโปร่งใสในการบริหารงาน ขาดการประสานงานระหว่างภาคส่วนต่างๆ เป็นไปได้ยาก ส่งผลให้การดำเนินการไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้


2) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการวัดตามกฎมหาเถรสมาคม พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ปัจจัยด้านการปกครอง รองลงมา คือ ปัจจัยด้านการศาสนศึกษา ปัจจัยด้านการศึกษาสงเคราะห์ ปัจจัยด้านการเผยแผ่พุทธศาสนา ปัจจัยด้านสาธารณสงเคราะห์ และปัจจัยด้านการสาธารณูปการส่วนปัจจัยที่ส่งผลมากที่สุด คือ ปัจจัยด้านการสาธารณสงเคราะห์ (Beta = 0.905) ได้ค่า Adjusted R Square = 0.579 หรือร้อยละ 57.90 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05


3) แนวทางการบริหารจัดการวัดตามกฎมหาเถรสมาคม พบว่า ควรมีการพัฒนาบุคลากรด้านการบริหารจัดการครอบคลุมบ้าน วัด โรงเรียน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สร้างระบบการตรวจสอบภายในให้มีความโปร่งใส มีการจัดทำแผนงานที่ชัดเจนสอดคล้องกับภารกิจของวัด เสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งภาครัฐและองค์กรอื่นๆ ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการปรับปรุงกระบวนการบริหารให้มีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงแห่งพระพุทธศาสนาและสามารถตอบสนองความต้องการของชุมชนได้อย่างยั่งยืน

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ชิตบุญ พ., วงษ์วัฒนพงษ์ ก. ., & ดอกจันทร์ ภ. . (2024). การบริหารจัดการวัดเพื่อความมั่นคงแห่งพระพุทธศาสนาในเขตอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก. Journal of Roi Kaensarn Academi, 9(12), 1676–1693. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JRKSA/article/view/275372
ประเภทบทความ
บทความวิจัย
ประวัติผู้แต่ง

พระมหาชัชรินทร์ ชิตบุญ , มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

         A Thesis Submitted in Partial Fulfillment of the Requirements for the Degree of Doctor of Philosophy Program in Public Administration Pibulsongkram Rajabhat University

เอกสารอ้างอิง

กรมการศาสนา. (2542). คู่มือพระสังฆาธิการและพระวินยาธิการ. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ,

จีรพัฒน์ แก้วจันทร์ กานดา ผรณเกียรติ์ อธิพงษ์ เพชรสุทธิ์ และ ธนกฤติ โพธิ์เงิน. (2567). ปัจจัยที่มี

ผลต่อการบริหารจัดการวัดตามมาตรฐานของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในกรุงเทพมหานคร.วารสารมณีเชษฐาราม วัดจอมมณี. 7(5). (กันยายน – ตุลาคม 2567).

พระครูสิริธรรมวิสิฐ (พรสวัสดิ์ ฐิตธมฺโม), ทวีศักดิ์ ทองทิพย์, พระครูใบฏีกาเวียง กิตติวณฺโณ. (2565).

การบริหารกิจการคณะสงฆ์อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์. วารสารมหาจุฬาคชสาร. 13(2). (กรกฎาคม - ธันวาคม พ.ศ.2565).

พระเทพปริยัติสุธี (วรวิทย์ คงฺคปญฺโญ). (2545). การคณะสงฆ์และการพระศาสนา. กรุงเทพฯ :

โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระเมธีธรรมาภรณ์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต). (2539). การปกครองคณะสงฆ์ไทย. กรุงเทพฯ :

มูลนิธิพุทธธรรม.

พระธรรมโมลี (สมศักดิ์ อุปสโม). (2530). ธรรมบทวิเคราะห์. กรุงเทพฯ : ไทยรายวัน.

พระใบฎีกาพงษ์ศักดิ์ ขนฺติพโล (รอดทะยอย) และพระมหากฤษณ์นินต์เสฏฐเมธี (เดชจักรบดินทร์). (2563).

รูปแบบและกระบวนการพัฒนาบริหารกิจการคณะสงฆ์เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชน

อย่างยั่งยืน. วารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์. 6(1). (มกราคม – มิถุนายน 2563).

วไลลัคน์ เวชนุเคราะห์.(2534). ระบบการเงินของสงฆ์. กรุงเทพฯ : คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

สุทธิพงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์. (ม.ป.ป.). พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ กฎกระทรวง กฎมหาเถรสมาคม พร้อมด้วย

ระเบียบและคำสั่งมหาเถรสมาคมเกี่ยวกับการคณะสงฆ์และการพระศาสนา. กรุงเทพฯ :

โรงพิมพ์การศาสนา.