การศึกษาแนวทางการกำหนดนโยบายสาธารณะในการบังคับใช้อุปกรณ์ควบคุมการสตาร์ทด้วยปริมาณแอลกอฮอล์เพื่อลดพฤติกรรมการดื่มแล้วขับในประเทศไทย

Main Article Content

ชนินทร์ จักรภพโยธิน
ณัฐพล สิทธิพราหมณ์

บทคัดย่อ

          การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแนวทางในการกำหนดนโยบายสาธารณะในการบังคับใช้อุปกรณ์ควบคุมการสตาร์ทด้วยปริมาณแอลกอฮอล์ลดพฤติกรรมการดื่มแล้วขับในประเทศไทย 2) เสนอแนะแนวทางการกำหนดนโยบายสาธารณะในการใช้อุปกรณ์ควบคุมการสตาร์ทด้วยปริมาณแอลกอฮอล์ในประเทศไทย เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลัก 60 คน แบ่งเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มกฎหมาย 12 คน กลุ่มหน่วยงานรัฐ 17 คน กลุ่มคนที่มีพฤติรรมการดื่มแล้วขับ 15 คน กลุ่มด้านเทคนิคและกลไก 7 คน กลุ่มด้านการขนส่ง 2 คน กลุ่มองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ทำงานด้านการป้องกันแก้ไขการดื่มแล้วขับ 7 คน เครื่องมือการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการศึกษาเอกสาร การสัมภาษณ์ และการวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา
           ผลการวิจัย พบว่า ผู้ให้ข้อมูลหลักส่วนใหญ่ เห็นด้วยในการนำอุปกรณ์ควบคุมการสตาร์ทด้วยปริมาณแอลกอฮอล์มาใช้ในประเทศไทย โดยให้ศาลเป็นผู้สั่งการสำหรับผู้กระทำความผิด และให้กรมการขนส่งทางบกเป็นผู้สั่งการสำหรับรถสาธารณะ ในการกำกับดูแลการตรวจสอบและติดตาม กรณีผู้กระทำความผิด ตรวจสอบและติตตามโดยกรมคุมประพฤติ กรณีรถสาธารณะ การตรวจสอบและติดตามโดยกรมการ
ขนส่งทางบก การนำนโยบายไปปฏิบัติควรมีการแบ่งระยะการบังคับใช้ โดยระยะทดลอง บังคับใช้กับผู้กระทำความผิดตั้งแต่การกระทำผิดครั้งแรกเท่ากับเวลาถูกคุมประพฤติ การรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเป็นของผู้กระทำผิดและผู้ดำเนินกิจการรถสาธารณะ นโยบายที่ต้องการเพื่อสนับสนุน คือ การลดหย่อนภาษี ปัญหาและข้อกังวล คือ การดัดแปลงอุปกรณ์

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
จักรภพโยธิน ช., & สิทธิพราหมณ์ ณ. . (2024). การศึกษาแนวทางการกำหนดนโยบายสาธารณะในการบังคับใช้อุปกรณ์ควบคุมการสตาร์ทด้วยปริมาณแอลกอฮอล์เพื่อลดพฤติกรรมการดื่มแล้วขับในประเทศไทย. Journal of Roi Kaensarn Academi, 9(12), 2460–2477. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JRKSA/article/view/275082
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมการขนส่งทางบก. (2554). นโยบายการกำกับดูแลองค์การที่ดี กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 20 มกราคม 2567. แหล่งที่มา : https://www.oic.go.th/FILEWEB/ CABINFOCENTER22/DRAWER025/GENERAL/DATA0000/00000011.PDF

นฤมล ถิ่นทอง. (2561). มาตรการทางเลือกทดแทนโทษประหารชีวิต. Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 3606. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 23 ธันวาคม 2567. แหล่งที่มา: https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/3606

เทอดศักดิ์ เดชคง. (2561). การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้กระทำผิดในคดีเมาขับด้วยเทคนิคการสนทนาสร้างแรงจูงใจ โดยพนักงานคุมประพฤติ. รายงานวิจัยและการประยุกต์ใช้ประสิทธิผลการสนทนาสร้างแรงจูงใจต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในผู้ถูกคุมความประพฤติคดีเมาแล้วขับของสำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร.

ไทยพับลิก้า. (2567). สถิติ 5 ปี “ดื่มแล้วขับ”ไทยสูญ 3.7 แสนล้าน เสนอเพิ่มโทษ-บังคับใช้เข้มข้น เหตุคนไม่กลัวกฎหมายทำผิดซ้ำพุ่ง. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 23 ธันวาคม 2567. แหล่งที่มา: https://thaipublica. org/2024/09/drunk-driving-costs-over-three-billion-baht-in-past-five-years/

ธงไทย ไพเราะ. (2561). การแก้ปัญหาการทะเลาะวิวาทด้วยทฤษฎีอาชญาวิทยา: กรณีศึกษาสถานประกอบการบนถนนข้าวสาร. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยรังสิต.

ภานุพงศ์ สีหามาตย์. (2559). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมของผู้กระทำผิดกรณีมึนเมาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขณะขับขี่ยานพาหนะ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร. สารนิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

มารียา เทพสิทธา. (2559). มาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับผู้ขับขี่รถที่บริโภคสุรา. วิทยานิพนธ์นิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต. คณะนิติศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย: สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.

จุฬารัตน์ รัฐพิทักษ์สันติ. (2562). ความกลัวต่อการตัดสินใจกระทำผิดซ้ำในคดียาเสพติดของผู้ต้องขังที่เคยกระทำผิดซ้ำ. Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 9823. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 22 มกราคม 2567. แหล่งที่มา : https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/ 9823.

ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน. (2566). แผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2565-2570. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 22 มกราคม 2567. แหล่งที่มา : https://roadsafety.disaster.go.th/ roadsafety/download/7377?id=21555

สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร สำนักแผนความปลอดภัย กลุ่มพัฒนาความปลอดภัย. (2562). รายงานการวิเคราะห์สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนของกระทรวงคมนาคม พ.ศ. 2561. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 22 มกราคม 2567. แหล่งที่มา : https://www.otp.go.th/post/view/3548

อัจฉรียา ชูตินันทน์. (2566). อาชญาวิทยาและทัณฑวิทยา. (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพมหานคร: วิญญูชน.

Elder, R. W., Voas, R., Beirness, D., Shults, R. A., Sleet, D. A., Nichols, J. L., Compton, R., & Task Force on Community Preventive Services. (2011). Effectiveness of ignition interlocks for preventing alcohol-impaired driving and alcohol-related crashes: a Community Guide systematic review. American journal of preventive medicine, 40 (3), 362–376. Online. Retrieved May 20,2024, from: https://doi.org/10.1016/j.amepre. 2010.11.012

European Transport Safety Council. (2020). Alcohol Interlock in Europe: An Overview of Current and Forthcoming Programmes. Brussels. Online. Retrieved May 23,2024, from: https://etsc.eu/wp-content/uploads/ALCOHOL_INTERLOCKS_FINAL.pdf

Heydari, S., Hickford, A., McIlroy, R., Turner, J., & Bachani, A. M. (2019). Road safety in low-income countries: state of knowledge and future directions. Sustainability, 11 (22), 6249. Online. Retrieved 25 January 2024 from: https://doi.org/10.3390/su11226249

Movendi International. (2022). Driving Under the Influence of Alcohol Is of Epidemic Proportions in Thailand. Online. Retrieved December 23,2024, from https://movendi. ngo/news/2022/04/20/driving-under-the-influence-of-alcohol-is-of-epidemic-proportions-in-thailand/

Schonfeld, C., & Sheehan, M. (2004). Critical Overview of Alcohol Ignition Interlock Programs in Australia. Online. Retrieved 25 January 2024 from: The National Academies of Sciences, Engineering, and Medicine: https://eprints.qut.edu.au/591/1/ schonfeld_critical.PDF

Vichitkunakorn, P., Khampang, R., Leelahavarong, P., Nontarak, J., & Assanangkornchai, S. (2024). Cost-utility analysis of an alcohol policy in Thailand: a case study of a random breath testing intervention. BMC health services research, 24 (1), 739. https://doi.org/ 10.1186/s12913-024-11189-4

World Health Organization (2012). European action plan to reduce the harmful use of alcohol 2012–2020. WHO Regional Office for Europe: Copenhagen, Denmark. Online. Retrieved 30 January 2024 from: https://www.who.int/europe/publications/i/item/ 9789289002868

World Health Organization. (2018). Global status report on road safety 2018. Management of Noncommunicable Diseases, Disability, Violence and Injury Prevention (NVI): Geneva, Switzerland. Online. Retrieved 30 January 2024 from: https://www.who.int/ publications/i/item/9789241565684

World Health Organization Thailand. (2020). Thailand’s status against 12 Global Road Safety Performance Targets: Review of Thailand’s status against voluntary global targets for road safety risk factors and service delivery mechanism. World Health Organization Country Office for Thailand: Nonthaburi.

World Health Organization. (2024). SDG Target 3.6 Halve the number of global deaths and injuries from road traffic accidents. Online. Retrieved May 20,2024, from: https:// www.who.int/data/gho/data/themes/topics/sdg-target-3_6-road-traffic-injuries