A Study of Meditation Treatment in Chachoengsao Province A Study of Meditation Treatment in Chachoengsao Province
Main Article Content
Abstract
The research results were revealed that:
- Principle and methods to practice the meditation in the temples or places in Cha. In the overview, there were the procedure of meditation treatment, starting at giving homage to the Triple Gem, taking the precepts, chanting mantras and meditation practice by concentrating the breathe-in and breathe-out according to the Anapansati and Buddhobhavana. According to Fourfold Satipatthana. There were the factors consisting of inflating and collapsing with breathe-in and out. Persons who practice, spent the holidays and the easy times with one time per week, relating with the interesting of them. Therefore, they gave the idea and it was calculated with means at the high level (=3.72).
- Initially, with the principle of meditation practice the persons started at the pure precepts, concentrated the breathe-in and out all time according the principle of fourfold Satipatthana and they should considered the six-fold vipassanabhumi, fivefold khandha, twel-fold sense, six-fold dhatu, eighteen dhatu, fourfold ariyasacca, twenty-two intriya, and twelfold paticcasamuppada. These practice procedures concerned to the evidence written in the scriptures of Buddhism.
- The efficiency and achievement of the formation to manage the meditation treatment in Chachoengsao Province were taught by the abbots or owners of temple or places of meditation in the personnel and the ready preparation. However, the preparation of the ready personnel to take the duty of teaching the meditation inherited from the abbots or owners of meditation places. This point was the little number. In the overview, the ready preparation was facility to people who came to practice the meditation and written the practice rules.
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร มจร พุทธโสธรปริทรรศน์ วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของวิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสีย แต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร และเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้เขียนทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์ บทความให้แก่วารสาร พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้เขียนทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร พุทธโสธรปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น
References
ชมชื่น สมประเสริฐ. (2526). ผลของการฝึกสมาธิต่อระดับความวิตกกังวล. รายงานการวิจัยมหาวิทยาลัยมหิดล.
ประหยัด ลักษณะงาม และคณะ. (2533). การบริหารจิตเพื่อพัฒนาคุณธรรม. รายงานการวิจัย. มปท.
พระครูสถิตธรรมาลังการ (จำเนียน สุชาโต). (2552). อาทีนวญาณในการปฏิบัติวิปัสสนาตามหลักสติปัฏฐาน 4 เฉพาะกรณีการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา 7 เดือน. รายงานการวิจัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระธีรนพ ญาณวีโร (สมัครแก้ว). (2552). การศึกษาวิเคราะห์อายตนะ 12 อันเป็นภูมิวิปัสสนาภาวนา เฉพาะกรณีการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา 7 เดือน. รายงานการวิจัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหาบุญเลิศ ธมฺมทสฺสี และคณะ. (2547). ศึกษาทัศนคติของพุทธศาสนิกชนที่มีต่อการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน. ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ส่วนธรรมนิเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. รายงานการวิจัยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหาประดิษฐ์ ธมฺมธีโร (ธรรมไขย์). (2552). การศึกษาวิเคราะห์ปีติ อันเป็นธรรมารมณ์ของวิปัสสนาภาวนาเฉพาะกรณีการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา 7 เดือน. รายงานการวิจัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหาประเสริฐ มนฺตเสวี (พรหมจันทร์). (2552). ศึกษาวิเคราะห์หลักปฏิบัติอานาปานสติภาวนา เฉพาะกรณีคำสอนพุทธทาสภิกขุ. รายงานการวิจัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหาวิชัย ยติชโย (ฤทธิ์วิรุฬห์). (2551). การศึกษาการพัฒนาวัดนาคเป็นสำนักปฏิบัติธรรมในคัมภีร์พระพุทธศาสนา. รายงานการวิจัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
วริยา ชินวรรโณ และคณะ. (2537). วิวัฒนาการการตีความคำสอนเรื่องสมาธิในพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทในประเทศไทย. รายงานวิจัย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.
อวยชัย โรจน์นิรันดร์กิจ. (2526) ผลของการฝึกอานาปานสติสมาธิในพุทธศาสนาต่อการพัฒนาการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรม. รายงานการวิจัยมหาวิทยาลัยมหิดล.