Contemplative Observation as a Tool for Self-Reflection Enhancement of Early Childhood Graduate Students
Keywords:
early childhood, self-reflection, assessment, contemplative observationAbstract
Being an astute observer of children is a primary skill for early childhood teachers.
This paper reports on a project conducted in Thailand that investigated the use of the
contemplative observation method as a tool for developing the ability of being non-judgmental. The aim of this study was to improve the processes of self-reflection of early childhood graduate students in order to build the quality of their observational skills for practice with children. Eight female early childhood graduate students were assigned to practice observation across 13 weeks involving two major types of contemplative observation practices: (a) self-observation comprising dancing meditation, still meditation, flower arrangement, painting, clay modeling, and mandala drawing, and (b) external observation comprising awareness of non-living as well as living things such as stones, plants, and children. Associated activities of journal writing were assigned to reflect learning experiences focused on awareness of the self in relation to the practices including in-depth interviews both before and after the study. Contemplative observation might assist teachers in moving from aspects of reflection to greater self-awareness, and achieve greater fairness in their observations of and dealings with young children in classrooms.
ทักษะสำคัญสำหรับครูปฐมวัย คือ การเป็นผู้สังเกตที่มีไหวพริบ งานวิจัยนี้เป็นโครงการที่เกิดขึ้นในประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการนำวิธีการสังเกตอย่างใคร่ครวญมาใช้ในการพัฒนากระบวนการไตร่ตรองตนเองของนิสิตสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย อันจะนำไปสู่การเสริมสร้างทักษะการสังเกตและความสามารถในการไม่รีบตัดสิน ผู้เข้าร่วม คือ นิสิตปริญญาโท สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย จำนวน 8 คน ระยะเวลาในการวิจัย 13 สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกปฏิบัติในการสังเกตอย่างใคร่ครวญ 2 ลักษณะ คือ ก) การสังเกตตนเอง ได้แก่ การเต้นรำ การสงบนิ่ง การจัดดอกไม้ การระบายสีน้ำ การปั้นดิน และการวาดมันดาลา และ ข) การสังเกตสิ่งภายนอกทั้งสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิต ได้แก่ ก้อนหิน ต้นไม้ และเด็ก นิสิตได้รับมอบหมายให้เขียนบันทึกสะท้อนประสบการณ์ประเด็นการตระหนักรู้ในตนเองที่เกิดขึ้นจากการฝึกปฏิบัติ ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกรายบุคคลก่อนและหลังการทดลอง การสังเกตอย่างใคร่ครวญอาจเป็นตัวช่วยครูในการไตร่ตรองไปสู่การตระหนักรู้ที่สูงขึ้น และนำไปสู่ความเป็นธรรมในการสังเกตและรับมือกับเด็กในชั้นเรียน