ปัจจัยเชิงสาเหตุของการนิเทศที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะครูที่สอนในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาโครงการโรงเรียนประชารัฐ

ผู้แต่ง

  • มารุต ทรรศนากรกุล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • จุไรรัตน์ สุดรุ่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

คำสำคัญ:

โรงเรียนประชารัฐ, สมรรถนะครู, การนิเทศ

บทคัดย่อ

การวิจัยมีวัตถุประสงค์ (1) ศึกษาโมเดลเชิงสาเหตุของปัจจัยด้านการนิเทศที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะครู (2) ตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลเชิงสาเหตุกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (3) วิเคราะห์ความหลากหลายของความสัมพันธ์เชิงสาเหตุด้านการนิเทศที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะครู ประชากร คือ ครูโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาในโครงการโรงเรียนประชารัฐ 21,812 คน ตัวอย่าง 1,040 คน ใช้การสุ่มแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage random sampling) เครื่องมือ คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติอนุมานและสถิติเชิงสรุปอ้างอิงโดยวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันและโมเดลสมการโครงสร้างด้วยโปรแกรม SPSS for Window Version 21 และ R

ผลการวิจัย (1) โมเดลเชิงสาเหตุของปัจจัยด้านการนิเทศที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะครู คือ รูปแบบการนิเทศ พฤติกรรมการนิเทศ กิจกรรมการนิเทศ (2) โมเดลเชิงสาเหตุ 4 รูปแบบ คือ แบบคลินิก (  = 489.3) แบบร่วมพัฒนาวิชาชีพ ( =  450.93) แบบพัฒนาตนเอง ( = 497.684) และแบบการนิเทศโดยผู้บริหาร ( =  480.243) มีความสอดคล้องเชิงประจักษ์ โดยมีค่า p-value= .000 ทุกรูปแบบ (3) ความหลากหลายของโมเดลเชิงสาเหตุของการนิเทศมี 4 โมเดล คือ โมเดลเชิงสาเหตุแบบคลินิก มีรูปแบบการนิเทศเป็นตัวแปรที่มีอิทธิพลทางตรงต่อสมรรถนะครูสูงสุด (  = 0.44) 2. โมเดลเชิงสาเหตุแบบร่วมพัฒนาวิชาชีพ มีพฤติกรรมการนิเทศเป็นตัวแปรที่มีอิทธิพลสูงสุด (  = 0.42) 3. โมเดลเชิงสาเหตุแบบพัฒนาตนเองมีรูปแบบการนิเทศ เป็นตัวแปรที่มีอิทธิพลสูงสุด (  = 0.79) 4. โมเดลเชิงสาเหตุแบบการนิเทศโดยผู้บริหาร มีรูปแบบการนิเทศเป็นตัวแปรที่มีอิทธิพลสูงสุด (  = 0.36)

เอกสารอ้างอิง

ภาษาไทย
คณะทำงานโครงการสานพลังประชารัฐ. (2560). การติดตามการพัฒนาการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ. ในการประชุมวิชาการเพื่อนำเสนอผลการดำเนินโครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน (CONNEXT ED). ครั้งที่ 7 วันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2560. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานโครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืนในโครงการสานพลังประชารัฐด้านการศึกษา (E5).
จุไรรัตน์ สุดรุ่ง. (2559). การนิเทศภายในโรงเรียน. กรุงเทพมหานคร: แดเน็กซ์อินเตอร์คอร์ปอเรชั่น.
นงลักษณ์ วิรัชชัย. (2542). โมเดลลิสเรล: สถิติวิเคราะห์สำหรับการวิจัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พรรณทรี โชคไพศาล. (2543). พฤติกรรมการนิเทศที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการสอนของครู (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร.
วัชรา เล่าเรียนดี. (2556). ศาสตร์การนิเทศการสอนและการโค้ช การพัฒนาวิชาชีพ: ทฤษฎี กลยุทธ์สู่การปฏิบัติ (พิมพ์ครั้งที่ 12). นครปฐม: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์.
สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา. (2559). การประเมินสมรรถนะครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อจัดทำแผนพัฒนาตนเอง (ID-PLAN) และแผนพัฒนาความก้าวหน้าในวิชาชีพ (Career plan). นครปฐม: ฝ่ายวิชาการ โครงการพัฒนาระบบการพัฒนาครูและบุคคลากรทางการศึกษา.
สถานบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). (2555). รายงานผลการจัดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET). กรุงเทพมหานคร: สถานบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน).
สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา. (2556). สาระความรู้ สมรรถนะและประสบการณ์วิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และศึกษานิเทศก์ ตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. 2556. กรุงเทพมหานคร: คุรุสภาลาดพร้าว.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2559). สถิติทางการโรงเรียนประชารัฐ. สืบค้นจาก: http://203.159.154.241/innogoth/

ภาษาอังกฤษ
Anderson, J. C., & Gerbing, D. W. (1988). Structural equation modeling in practice: A review and recommended two-step approach. Psychological Bulletin, 103(3), 411-423.
Barbara, M. B. (2012). Structural equation modeling with Mplus: Basic concepts, application, and programming. New York: Taylor & Francis Group.
Beach, D. M., & Reinhartz, J. (2000). Supervision leadership: Focus on instruction. Boston: Allyn and Bacon.
Boyan, N. J., & Copeland, W. D. (1978). Instructional supervision training program. Columbus, OH: Charles E. Merrill.
Glatthorn, A. A. (1984). Differentiate supervision. Washington D.C.: Association for Supervision and Curriculum Development.
Glickman, C. D., Gordon S. P., & Ross-Gordon, J. M. (2010). Supervision and instructional leadership: A developmental approach (8th ed.). Boston: Allyn and Bacon.
Glickman, C. D., Gordon, S. P., & Ross-Gordon, J. M. (2018). Supervision and instructional leadership: A developmental approach (10th ed.). Upper Saddle River, NJ: Pearson Inc.
Hvidston, D. J., McKim, C. J., & Mette, I. M. (2016). Principals’ supervision and evaluation cycles: Perspective from principals. Education Leadership Review, 17(1), 100-113.
Perera-Diltz, D. M., & Mason, K. L. (2012). A national survey of school counselor supervision practices: Administrative, clinical, peer, and technology mediated supervision. Journal of School Counseling. Montana State University International of Education Sciences, 10(4), 1-34.
Sergiovanni, T. J., & Starratt, R. J. (2007). Supervision: A redefinition. New York: McGraw-Hill.
Sergiovanni, T. J., & Starratt, R. J. (1988). Supervision: Human perspective (4th ed.). Thousand Oaks, CA: Corwin.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-12-27

รูปแบบการอ้างอิง

ทรรศนากรกุล ม., & สุดรุ่ง จ. (2019). ปัจจัยเชิงสาเหตุของการนิเทศที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะครูที่สอนในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาโครงการโรงเรียนประชารัฐ. วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 47(4), 366–385. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EDUCU/article/view/232080