การศึกษาการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างของนักวิจัยไทยและนิสิต-นักศึกษาระดับอุดมศึกษาของไทย ในการวิจัยเชิงปริมาณทางด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ การโรงแรม การท่องเที่ยว และอื่น ๆ
คำสำคัญ:
การวิจัยเชิงปริมาณ, การกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่าง, การใช้สูตรทางสถิติและตารางสำเร็จรูป, นักวิจัยและนิสิต-นักศึกษาระดับอุดมศึกษาของไทยบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้พบว่า งานวิจัยร้อยละ 26.23% ไม่บอกที่มาของตัวเลขขนาดของกลุ่มตัวอย่าง
ที่ใช้และงานวิจัยร้อยละ 48.36 ใช้สูตรคํานวณขนาดของกลุ่มตัวอย่าง (ซึ่งในจํานวนนี้ร้อยละ 76.27 ใช้สูตร ที่ผิดพลาด) นอกจากนี้งานวิจัยอีกร้อยละ 25.41 ใช้ตารางสําเร็จรูปในการกําหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่าง (ซึ่งปรากฏว่าใช้ตารางสําเร็จรูปอย่างผิดพลาดทั้งหมด) ความผิดพลาดที่พบคือ งานวิจัยที่ทําการศึกษา ค่าเฉลีี่ยประชากร (ซึ่งจะได้ผลลัพธ์เป็นค่าเฉลี่ยและส่วนเบีี่ยงเบนมาตรฐานเป็นคําตอบ) กลับนําเอาสูตรของ ยามาเน่มาใช้มากถึงร้อยละ 73.33 รองลงมาเป็นการใช้สูตรของโคแครนและสูตรของกัลยา วานิชย์บัญชา ในส่วนที่ออกแบบไว้เพื่อการศึกษาสัดส่วนประชากร และสูตรของเคร็จซี่ แอนด์มอร์ แกน ร้อยละ 13.33, 8.88 และ 4.44 ตามลําดับซึ่งถือว่าผิดพลาดเพราะสูตรดังกล่าวเป็นสูตรที่ใช้คํานวณขนาดของกลุ่มตัวอย่างเพื่อการศึกษาสัดส่วนประชากร (ซึ่งจะได้ผลลัพธ์เป็นจํานวน ความถี่ร้อยละ สัดส่วน) และกรณีใช้ตารางสําเร็จรูปกําหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างเพื่อการศึกษาค่าเฉลี่ยประชากรพบว่า ร้อยละ 74.19 นําเอาตารางสําเร็จรูปของเคร็จซี่แอนด์ มอร์แกน มาใช้งาน ร้อยละ 25.81 นําเอาตารางสําเร็จรูปของยามาเน่มาใช้งานซึ่งเป็นการใช้สูตรผิดประเภทของการศึกษาวิจัยดังกล่าว
