สิทธิในการอุทธรณ์ของนายจ้าง กรณีการยึด อายัด และการขายทอดตลาดทรัพย์สินตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533
คำสำคัญ:
การบังคับทางปกครอง, สิทธิในการอุทธรณ์, ประกันสังคมบทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาแนวคิด ทฤษฎี กฎหมายประกันสังคม และมาตรการบังคับทางปกครอง 2. เพื่อศึกษาเปรียบเทียบมาตรการบังคับทางปกครองตามกฎหมายประกันสังคมในไทยและต่างประเทศ 3. เพื่อศึกษาวิเคราะห์สภาพปัญหาสิทธิในการอุทธรณ์ของนายจ้าง กรณีการยึด อายัด และการขายทอดตลาดทรัพย์สินของนายจ้าง ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และ 4. เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาการใช้มาตรการบังคับทางปกครองตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม พ.ศ. 2533 เป็นวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้วิธีการศึกษาวิจัยจากการค้นคว้าตัวบทกฎหมาย หนังสือคำอธิบายกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คำพิพากษาศาลฎีกา บทความทางวิชาการ วิทยานิพนธ์ เอกสารงานวิจัย ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ตลอดจนวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้า แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง มาวิเคราะห์แบบเชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) การอุทธรณ์เป็นกระบวนการควบคุมภายในฝ่ายปกครองที่สำคัญในการแก้ไขบรรดาข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐกับประชาชนให้หมดสิ้นไป ซึ่งเป็นมาตรการอย่างหนึ่งที่จะช่วยในการบริหารงานยุติธรรมทางปกครองได้ 2) การใช้มาตรการบังคับทางปกครองของไทย สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และสาธารณรัฐฝรั่งเศส มีหลักการเดียวกัน กล่าวคือ หลักการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย หลักความจำเป็น หลักพอสมควรแก่เหตุ และหลักความแน่นอนชัดเจนก่อนการใช้มาตราการบังคับทางปกครองต้องมีการเตือนก่อนเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้อยู่ในบังคับปฏิบัติให้ถูกต้อง 3) พบปัญหาคือในการยึด หรืออายัดทรัพย์สินของนายจ้าง ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 เมื่อเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม มีคำสั่งยึด หรืออายัดทรัพย์สินของนายจ้างแล้ว ห้ามมิให้นายจ้างอุทธรณ์คำสั่งยึด หรืออายัดทรัพย์สินนั้น จึงเป็นปัญหาว่านายจ้างมิได้รับความคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย ปัญหาไม่มีการควบคุมตรวจสอบภายในของฝ่ายปกครองเอง ปัญหากรณีที่นายจ้างถึงแก่ความตาย ทายาทผู้รับมรดกหรือผู้จัดการมรดกไม่สามารถอุทธรณ์คำสั่งยึด หรืออายัดทรัพย์สินได้ และ 4) เสนอแนะแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 โดยกำหนดให้นายจ้าง ผู้ประกันตน หรือบุคคลอื่นใด ไม่พอใจคำสั่งของเลขาธิการ หรือของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งสั่งการตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ให้มีสิทธิอุทธรณ์เป็นหนังสือต่อคณะกรรมการอุทธรณ์ และในกรณีที่นายจ้างถึงแก่ความตายให้นำมาตรา 50 มาบังคับใช้กับทายาทผู้รับมรดกหรือผู้จัดการมรดกของนายจ้างโดยอนุโลม โดยให้ระยะเวลาอุทธรณ์เริ่มนับใหม่นับแต่วันที่ทายาทผู้รับมรดกได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อให้มีความชัดเจนของกฎหมาย และเพื่อคุ้มครองสิทธิของนายจ้างหรือทายาทผู้อยู่ในบังคับทางปกครอง
