การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแนวโน้มการเกิดการทุจริตกับผลการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรในจังหวัดนครราชสีมา

ผู้แต่ง

  • ปรียนันท์ อัศววัฒนสุนทร นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาบัญชี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

คำสำคัญ:

แนวโน้มการเกิดทุจริต, ผลการดำเนินงาน, สหกรณ์การเกษตร

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแนวโน้มการเกิดการทุจริตที่วัดโดยค่า Altman Z-score และผลการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตร และ 2. เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบของขนาดกิจการและ D/E Ratio ต่อผลการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตร เป็นการวิจัยแบบเชิงปริมาณ มีเครื่องมือในการวิจัย คือ แบบเก็บข้อมูล ที่ได้ข้อมูลรายงานทางการเงินและผลการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรในจังหวัดนครราชสีมาที่ดำเนินงานต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 10 ปี (พ.ศ.2557 ถึง พ.ศ.2566) จากระบบบริการข้อมูลสารสนเทศทางการเงินของสหกรณ์กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ โดยมีกลุ่มตัวอย่างการวิจัย คือ สหกรณ์การเกษตรในจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 710 กลุ่มตัวอย่าง ที่มาจากการคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้มาวิเคราะห์โดยใช้การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Multiple regression analysis) โดยมีตัวแปรอิสระคือค่า Z-score ของแบบจำลอง Altman ตัวแปรตามคืออัตราผลตอบแทนต่อส่วนของเจ้าของ (ROE) และกำหนดให้ขนาดของกิจการ (Size) และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) เป็นตัวแปรควบคุม ผลการวิจัยพบว่า 1) แนวโน้มการไม่ทุจริตที่วัดจาก Altman Z-Score มีความสัมพันธ์ในทางลบกับอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของเจ้าของ (ROE) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ นั่นคือ สหกรณ์การเกษตรที่มีแนวโน้มไม่ทุจริตเพิ่มขึ้น มีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของเจ้าของ (ROE) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และ 2) ตัวแปรขนาดของกิจการและอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อผลการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตร (ROE) นอกจากนี้ แบบจำลองการถดถอยพหุคูณสามารถอธิบายความแปรผันของผลการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตร (ROE) ได้เพียงร้อยละ 1.6 แสดงให้เห็นว่าปัจจัยอื่น ๆ นอกเหนือจากตัวแปรที่ศึกษาอาจมีบทบาทสำคัญในการกำหนดผลตอบแทนของสหกรณ์การเกษตรในบริบทพื้นที่ศึกษานี้

ประวัติผู้แต่ง

ปรียนันท์ อัศววัฒนสุนทร, นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาบัญชี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาบัญชี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-08-11