ปัจจัยที่ส่งผลต่อบทบาทของชุมชนในกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์: กรณีศึกษาชุมชนตำบลไผ่ขวาง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหัดสุพรรณบุรี

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการมีส่วนร่วมของชุมชน การสนับสนุนทางสังคม และทุนทางสังคมกับบทบาทของชุมชนในกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ และ 2. เพื่อสร้างสมการทำนายว่าปัจจัยใดเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อบทบาทของชุมชนในกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ เป็นการวิจัยแบบเชิงปริมาณ มีเครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสอบถาม โดยมีกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 384 คน ที่มาจากการคำนวนขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรทาโร่ ยามาเน่ (1976) ที่ระดับความคลาดเคลื่อน 0.05 ที่มาจากการสุ่มตัวอย่าง 2 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบวิธีการสุ่มแบบชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) เมื่อได้จำนวนตัวอย่างของแต่ละชั้นภูมิแล้ว จึงใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เป็นขั้นตอนที่ 2 แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากแบบสอบถามมาวิเคราะห์โดยใช้การวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และการวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณแบบเป็นขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า 1) ความสัมพันธ์ระหว่างการมีส่วนร่วมของชุมชุน การสนับสนุนทางสังคมและทุนทางสังคมมีความสัมพันธ์กับบทบาทของชุมชนในกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ในระดับสูง (r = .793, .839, .771 ตามลำดับ) และ 2) จากการวิเคราะห์สมการทำนายพบว่าองค์ประกอบการสนับสนุนทางสังคมด้านทรัพยากร ทุนทางสังคมด้านเครือข่ายทางสังคม การมีส่วนร่วมของชุมชนด้านการมีส่วนร่วมในการประเมินผล การสนับสนุนทางสังคมด้านข้อมูลข่าวสาร และการมีส่วนร่วมของชุมชนด้านการมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจสามารถทำนายปัจจัยที่ส่งผลต่อบทบาทของชุมชนในกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ได้ร้อยละ 74.0