การนำการไกล่เกลี่ยมาใช้ในคดีแพ่ง
คำสำคัญ:
ไกล่เกลี่ย, คดีแพ่ง, หลังฟ้องบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาความเป็นมา แนวคิด ทฤษฎี การไกล่เกลี่ยคดีแพ่งในศาลชั้นต้น 2. เพื่อศึกษามาตรการทางกฎหมายการไกล่เกลี่ยคดีแพ่งในศาลชั้นต้นตามกฎหมายไทยและต่างประเทศ 3. เพื่อวิเคราะห์ปัญหาการไกล่เกลี่ยคดีแพ่งในศาลชั้นต้น และ 4. เพื่อเสนอแนะแนวทางแก้ไขมาตรการทางกฎหมายการไกล่เกลี่ยคดีแพ่งในศาลชั้นต้น เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ศึกษาจากตำรากฎหมาย เว็บไซต์ ตัวบทกฎหมายของไทยและต่างประเทศ โดยนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ในเชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) ข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการไกล่เกลี่ย พ.ศ.2554 (1) ข้อ 27 กำหนดให้เป็นดุลพินิจของผู้ประนีประนอมที่จะให้คู่ความเสนอหรือแลกเปลี่ยน ข้อเท็จจริง และข้อเสนอในการระงับข้อพิพาท ต่อผู้ประนีประนอมหรือต่อคู่ความอีกฝ่ายหรือไม่ก็ได้ ทั้งยังไม่มีมาตรการทางกฎหมายกำหนดสภาพบังคับให้คู่ความต้องปฏิบัติตามแต่อย่างใด (2) ข้อ 51 (2) กำหนดคุณสมบัติของผู้ประนีประนอมให้เป็นผู้สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีในสาขาใด ๆ ก็ได้ (3) ข้อ 7 วรรคสอง ไม่ได้กำหนดลักษณะหรือประเภทของคดีที่ต้องทำการไกล่เกลี่ยก่อนการพิจารณาคดีไว้เป็นการเฉพาะเจาะจง 2) กฎหมายเกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยคดีแพ่งในศาลชั้นต้นของประเทศสิงคโปร์และประเทศสหรัฐอเมริกา (ศาลรัฐบาลกลาง เขตโคลัมเบีย) (1) กำหนดให้ ก่อนเข้าสู่การไกล่เกลี่ยคู่ความต้องส่งพยานหลักฐานและข้อเสนอในการระงับข้อพิพาทให้กับผู้ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยและคู่ความฝ่ายอีกฝ่าย หากไม่ปฏิบัติตามมีกฎหมายกำหนดสภาพบังคับไว้ (2) กำหนดคุณสมบัติของผู้ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยคดีแพ่งต้องเป็นผู้มีความรู้ทางกฎหมาย (3) กำหนดลักษณะหรือประเภทของคดีที่ต้องทำการไกล่เกลี่ยก่อนการพิจารณาคดีไว้เป็นการเฉพาะเจาะจง 3) ข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการไกล่เกลี่ย พ.ศ.2554 ยังมีปัญหาในเรื่อง (1) ก่อนการไกล่เกลี่ยคู่ความไม่เสนอหรือแลกเปลี่ยน ข้อเท็จจริง และข้อเสนอในการระงับข้อพิพาทต่อผู้ประนีประนอมหรือคู่ความอีกฝ่าย ทั้งยังไม่มีมาตรการทางกฎหมายกำหนดสภาพบังคับให้คู่ความต้องปฏิบัติตามแต่อย่างใด (2) ไม่กำหนดคุณสมบัติของผู้ประนีประนอมให้เป็นผู้มีความรู้ทางกฎหมาย (3) ไม่กำหนดลักษณะหรือประเภทของคดีที่ต้องทำการไกล่เกลี่ยก่อนการพิจารณาคดีไว้เป็นการเฉพาะเจาะจง และ 4) ผู้วิจัยจึงเสนอแนะให้แก้ไขและเพิ่มเติม ข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการไกล่เกลี่ย พ.ศ.2554 เพื่อ (1) ให้คู่ความได้เสนอหรือแลกเปลี่ยน ข้อเท็จจริง และข้อเสนอในการระงับข้อพิพาทต่อผู้ประนีประนอมหรือคู่ความอีกฝ่าย และให้มีมาตรการทางกฎหมายกำหนดสภาพบังคับให้คู่ความต้องเสนอหรือแลกเปลี่ยน ข้อเท็จจริง และข้อเสนอในการระงับข้อพิพาทต่อผู้ประนีประนอมและคู่ความอีกฝ่าย (2) กำหนดคุณสมบัติของผู้ประนีประนอมเป็นผู้มีความรู้ทางกฎหมาย (3) กำหนดลักษณะหรือประเภทของคดีที่ต้องทำการไกล่เกลี่ยก่อนการพิจารณาคดีไว้เป็นการเฉพาะเจาะจง อันจะทำให้คู่ความสามารถระงับข้อพิพาท และคดีในชั้นพิจารณาของศาลยุติไปได้ด้วยความสะดวก รวดเร็ว ต่อไป
