การประยุกต์ใช้ทฤษฎีดนตรีสากลในการเรียบเรียงและบรรเลงดนตรีพื้นบ้านอีสานใต้ในรูปแบบวงดนตรีคอมโบ้

ผู้แต่ง

  • จิรานุวัฒน์ ขันธจันทร์ อาจารย์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์

คำสำคัญ:

การประยุกต์ใช้, ทฤษฎีดนตรีสากล, เพลงพื้นบ้านอีสานใต้, วงดนตรีคอมโบ้

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษารูปแบบการเรียบเรียงและการบรรเลงดนตรีพื้นบ้านอีสานใต้แบบดั้งเดิม และ 2. เพื่อประยุกต์ใช้ทฤษฎีดนตรีสากลในการเรียบเรียงและบรรเลงดนตรีพื้นบ้านอีสานใต้ในรูปแบบวงดนตรีคอมโบ้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ มีเครื่องมือการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์มีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง มีกลุ่มเป้าหมายในการวิจัย จำนวน 3 คน ที่มาจากการเลือกแบบเจาะจง แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและการสัมภาษณ์มาวิเคราะห์ในเชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) รูปแบบการเรียบเรียงและการบรรเลงแบบดั้งเดิม ปัจจุบัน มีรูปแบบการผสมวงอยู่ 2 ลักษณะคือ วงกันตรึมและวงมโหรี วงดนตรีทั้ง 2 รูปแบบนี้ จะเน้นการบรรเลงทำนองหลักของบทเพลง ไปพร้อมกับเครื่องประกอบจังหวะและการขับร้อง ทำนองประกอบ เสียงประสานมีในบางโอกาส พื้นผิวดนตรีเป็นดนตรีแนวเดียว การแสดงแต่ละครั้งจะลำดับเพลง ประกอบด้วย 1.1) เพลงครู เป็นเพลงแรกของงาน ใช้เพลงจังหวะช้าเพื่อแสดงความเคารพครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 1.2) เพลงขับกล่อม ใช้จังหวะปานกลาง 1.3) เพลงสนุกสนานใช้เพลงจังหวะเร็ว 1.4) เพลงลา ใช้บรรเลงเป็นเพลงสุดท้ายของงาน วงกันตรึม นิยมบรรเลงในงานรื่นเริง วงมโหรีนิยมบรรเลงในงานที่เป็นทางการ งานพิธีกรรม ทั้งงานมงคล และอวมงคล และ 2) การประยุกต์ใช้ทฤษฎีดนตรีสากลในการเรียบเรียงและบรรเลงดนตรีพื้นบ้านอีสานใต้ ทำได้โดยหาจุดร่วมระหว่างอัตลักษณ์ดนตรีพื้นบ้าน และหลักทฤษฎีดนตรีสากล เน้นความโดดเด่นของทำนองหลัก สร้างเสียงประสาน พื้นหลัง บทนำ บทเชื่อม บทจบ การดำเนินคอร์ด และการสอดทำนอง แล้วจัดองค์ประกอบดนตรีให้เหมาะสม ผลการวิจัยครั้งนี้ทำให้ทราบถึง รูปแบบการเรียบเรียงและการบรรเลงของดนตรีพื้นบ้านอีสานใต้แบบดั้งเดิม และวิธีการประยุกต์ใช้ทฤษฎีดนตรีสากลทำให้เกิดเพลงพื้นบ้านอีสานใต้ในอีกหนึ่งมิติเพื่อประโยชน์ในการเรียนรู้และสืบทอดต่อไป

ประวัติผู้แต่ง

จิรานุวัฒน์ ขันธจันทร์, อาจารย์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์

อาจารย์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-03-15