การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค Co – op Co – op เรื่องพระพุทธศาสนาชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค Co–op Co–op เรื่องพระพุทธศาสนา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค Co–op Co–op เรื่องพระพุทธศาสนา 3. เพื่อศึกษาความคิดเห็นต่อพฤติกรรมการทำงานเป็นทีมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค Co–op Co–op เรื่อง พระพุทธศาสนา และ 4. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค Co–op Co–op เรื่องพระพุทธศาสนา เป็นการวิจัยแบบเชิงปริมาณ โดยเครื่องมือการวิจัย คือ (1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 12 แผน (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก 30 ข้อ (3) แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานเป็นทีมของนักเรียน วัดได้จากแบบสังเกต 5 ด้าน รวม 15 คะแนน และกลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนคำโองวิทยา จำนวน 10 คน ที่ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ในสถิติเชิงพรรณา ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบสมมติฐาน (t -test Dependent) ผลการวิจัยพบว่า 1) ประสิทธิภาพของแผนการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้เรื่องพระพุทธศาสนา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค Co-op Co-op มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.83/81.67 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ (75/75) 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องพระพุทธศาสนา หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) พฤติกรรมการทำงานเป็นทีมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เรื่องพระพุทธศาสนา โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค Co–op Co–op โดยรวมอยู่ในระดับคุณภาพดีมาก และ 4) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค Co-op Co-op เรื่อง พระพุทธศาสนา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (4.25)