ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการน้ำบาดาลตามหลักธรรมาภิบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดระยอง

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1. ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการน้ำบาดาลตามหลักธรรมาภิบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดระยอง และ 2. ปัญหาและอุปสรรคในการบริหารจัดการน้ำบาดาลตามหลักธรรมาภิบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดระยอง เป็นการวิจัยแบบผสมผสานระหว่างการวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ (Mixed Methods) มีกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยได้แก่ บุคลากรและเจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดระยอง จำนวน 68 แห่ง จำนวนทั้งสิ้น 1,099 คน ซึ่งกำหนดขนาดด้วยโปรแกรม G*Power กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญจากสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นอำเภอจังหวัดระยอง จำนวน 25 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์เชิงลึก แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้มาวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณเชิงเส้นตรง (MLRA) ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการน้ำบาดาลตามหลักธรรมาภิบาลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 มีจำนวน 7 ปัจจัย ได้แก่ 1.1) ปัจจัยการมีส่วนร่วมของบุคคล 1.2) ปัจจัยการบริหารจัดการ 1.3) ปัจจัยการอบรมให้ความรู้ 1.4) ปัจจัยด้านแรงจูงใจ 1.5) ปัจจัยความเข้าใจในนโยบาย 1.6) ปัจจัยการมีส่วนร่วมของชุมชน และ 1.7) ปัจจัยสภาพแวดล้อม 2) ปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญ มี 5 ประการ คือ 2.1) ขาดการควบคุมการปล่อยทิ้งมลพิษทางน้ำ 2.2) ขาดแผนแก้ไขและฟื้นฟูคุณภาพสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม 2.3) ขาดการศึกษาและแก้ไขปัญหาน้ำใต้ดิน และน้ำบ่อตื้น 2.4) ไม่มีการวิจัยอย่างเป็นระบบเพื่อการบำบัดฟื้นฟูการปนเปื้อนของน้ำใต้ดิน และ 2.5) ขาดการเสริมสร้างศักยภาพเจ้าหน้าที่เครือข่ายและประชาชน