ข้อพิจารณาคดีอาญาโดยไม่มีตัวจำเลย กรณีจำเลยถึงแก่ความตายในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา

ผู้แต่ง

  • ชัชวาลย์ วิบุลสันติ นักศึกษา ปริญญาโท สาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

คำสำคัญ:

ข้อพิจารณาคดีอาญา, ไม่มีตัวจำเลย, กรณีจำเลยถึงแก่ความตาย

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาแนวคิดและทฤษฎีสำคัญเกี่ยวกับการพิจารณาคดีอาญาโดยไม่มีตัวจำเลยกรณีจำเลยถึงแก่ความตายในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา 2. เพื่อศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายของต่างประเทศเกี่ยวกับการพิจารณาคดีอาญาโดยไม่มีตัวจำเลยกรณีจำเลยถึงแก่ความตายในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา 3. เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและผลกระทบเกี่ยวกับการพิจารณาคดีอาญาโดยไม่มีตัวจำเลยกรณีจำเลยถึงแก่ความตายในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา และ 4. เพื่อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาคดีอาญาโดยไม่มีตัวจำเลยกรณีจำเลยถึงแก่ความตายในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยจะทำการศึกษาจากเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ หนังสือ ตำรา วิทยานิพนธ์ บทความทางวิชาการ งานวิจัย ตัวบทกฎหมาย คำพิพากษาของต่างประเทศ คำพิพากษาศาลฎีกา และข้อมูลสารสนเทศทางอินเทอร์เน็ตทั้งของประเทศไทยและต่างประเทศ เป็นต้น แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง มาวิเคราะห์ในเชิงเนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า 1) ตามแนวคิดและทฤษฎีที่สำคัญ เป็นที่ยอมรับในทางกฎหมายว่าการพิจารณาคดีอาญาต้องกระทำต่อหน้าจำเลย การที่จำเลยถึงแก่ความตายทำให้การดำเนินคดีอาญาระงับไปทั้งหมด รวมทั้งกรณีจำเลยถึงแก่ความตายในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา 2) กฎหมายของต่างประเทศ เช่น ประเทศฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกามีการนำหลักกฎหมายในการระงับคดีอาญาในกรณีจำเลยถึงแก่ความตายในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาคล้ายคลึงกับประเทศไทย 3) การระงับคดีอาญาในกรณีจำเลยถึงแก่ความตายในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาทำให้ศาลสูงไม่สามารถพิจารณาทบทวนคำพิพากษาของศาลล่าง คดีจึงไม่เป็นที่สุด การพิสูจน์ความจริงในคดีไม่อาจบรรลุผล และจำเลยยังได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานตามกฎหมายว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาโดยศาลถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย กระทบต่อโจทก์หรือผู้เสียหาย จำเลย รวมทั้งรัฐซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา และ 4) เห็นควรแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(1) โดยสิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปโดยความตายของผู้กระทำความผิด เว้นแต่คดีซึ่งจำเลยถึงแก่ความตายอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา ให้ศาลนั้นมีอำนาจพิจารณาและมีคำพิพากษาต่อไปได้ โดยให้คำพิพากษาของศาลนั้นเป็นที่สุด

Author Biography

ชัชวาลย์ วิบุลสันติ, นักศึกษา ปริญญาโท สาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

นักศึกษา ปริญญาโท สาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2023-02-13