คุณสมบัติของนักบัญชียุคดิจิทัลและการจัดการความเสี่ยงขององค์กรที่ส่งผลต่อคุณภาพ การปฏิบัติงานด้านการเงินและบัญชีภาครัฐผ่านระบบ New GFMIS Thai

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาคุณสมบัติของนักบัญชียุคดิจิทัลที่ส่งผลต่อคุณภาพการปฏิบัติงานด้านการเงินและบัญชีภาครัฐ ผ่านระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ (New GFMIS Thai) และ 2. เพื่อศึกษาการจัดการความเสี่ยงขององค์กรที่ส่งผลต่อคุณภาพการปฏิบัติงานด้านการเงินและบัญชีภาครัฐผ่านระบบ New GFMIS Thai เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีเครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม โดยมีกลุ่มตัวอย่าง คือ นักวิชาการเงินและบัญชี ระดับปฏิบัติการ - ชำนาญการ และเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี จำนวน 387 คน มาจากการคำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรของทาโร่ ยามาเน่ (1973) ที่ระดับความคลาดเคลื่อน 0.05 แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากแบบสอบถามมาวิเคราะห์สถิติการถดถอยเชิงพหุคูณทดสอบสมมติฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) คุณสมบัติของนักบัญชียุคดิจิทัล ด้านความชำนาญในงานบัญชี ด้านทักษะในการใช้โปรแกรมระบบ New GFMIS Thai ด้านความสามารถในการใช้เทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการทำงาน ด้านความรู้ความเข้าใจกฎระเบียบขององค์กร ด้านทักษะทางอารมณ์ และด้านทักษะการสื่อสารปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นส่งผลเชิงบวกต่อคุณภาพการปฏิบัติงานด้านการเงินและบัญชีภาครัฐผ่านระบบ New GFMIS Thai ด้านความครบถ้วนของงาน ด้านความถูกต้องของงาน ด้านความทันต่อเวลาของงาน และด้านความตรวจสอบได้ของงาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ 0.05 ยกเว้นด้านทักษะทางอารมณ์ส่งผลเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางตรงกันข้าม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ต่อคุณภาพการปฏิบัติงานฯ ด้านความครบถ้วนของงาน สำหรับด้านความสามารถในการใช้เทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการทำงาน และด้านทักษะทางอารมณ์ไม่ส่งผลต่อคุณภาพการปฏิบัติงานฯ ด้านความถูกต้องของงาน และด้านความทันต่อเวลาของงาน และ 2) การจัดการความเสี่ยงขององค์กร ด้านสภาพแวดล้อมภายในองค์กรที่ช่วยลดความเสี่ยง ด้านการกำหนดวัตถุประสงค์ในการจัดการความเสี่ยงขององค์กรที่ชัดเจน ด้านการประเมินความเสี่ยงขององค์กรเป็นระยะ ๆ ด้านการระบุแนวทางตอบสนองความเสี่ยงที่ชัดเจน และด้านกิจกรรมการควบคุมความเสี่ยงที่มีประสิทธิผล ส่งผลเชิงบวกต่อคุณภาพการปฏิบัติงานด้านการเงินและบัญชีภาครัฐผ่านระบบ New GFMIS Thai ด้านความครบถ้วนของงาน ด้านความถูกต้องของงาน ด้านความทันต่อเวลาของงาน และด้านความตรวจสอบได้ของงาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ 0.05