ความต้องการในการศึกษาต่อหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต วิทยาลัยสงฆ์ชัยภูมิ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาระดับความต้องการของพระสงฆ์และประชาชนผู้สนใจศึกษาต่อหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิตในจังหวัดชัยภูมิ 2. เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะในการเสนอความต้องการของพระสงฆ์และประชาชนผู้สนใจศึกษาต่อหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา จังหวัดชัยภูมิ เป็นการวิจัยแบบผสมผสานระหว่างการวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ (Mixed Methods) มีเครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม/แบบสัมภาษณ์/แบบประเมินผล/อื่นๆ โดยมีกลุ่มตัวอย่าง/กลุ่มเป้าหมาย คือพระสงฆ์และประชาชนในเขตจังหวัดชัยภูมิ 16 อำเภอ จำนวน 160 รูป/คนที่มาจากการคำนวนขนาดกลุ่มตัวอย่าง/กลุ่มเป้าหมาย โดยใช้สูตร ทาโร่ ยามาเน่ ที่ระดับความคลาดเคลื่อน 0.05 ที่มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ (Sampling Random) แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากแบบสอบถามมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ประกอบด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบโดยการทดสอบค่าที (t-test) และการทดสอบค่าสถิติค่าเอฟ (F-test) (ตัวอย่างเชิงคุณภาพ) แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากเอกสาร/วรรณกรรม/แบบสัมภาษณ์/แบบบันทึก/แบบสังเกต/อื่น ๆ มาวิเคราะห์แบบเชิงเนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัยพบว่า 1) พระสงฆ์และประชาชนในเขตจังหวัดชัยภูมิ มีความต้องการในการศึกษาต่อหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต วิทยาลัยสงฆ์ชัยภูมิ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีความต้องการศึกษาต่ออยู่ในระดับมาก 2 ด้านเรียงค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการดำเนินการของหลักสูตรค่าเฉลี่ย 3.88 และด้านทัศนคติต่อสาขาวิชาพุทธศาสนา ค่าเฉลี่ย 3.60 มีความต้องการศึกษาต่ออยู่ในระดับปานกลาง 1 ด้าน ได้แก่ ด้านความพร้อมในการศึกษาต่อ ค่าเฉลี่ย 3.25 และ 2) ข้อเสนอแนะของพระสงฆ์และประชาชนผู้สนใจในการศึกษาต่อหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต วิทยาลัยสงฆ์ชัยภูมิ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พบว่า มีข้อเสนอแนะ ด้านความพร้อมในการศึกษาต่อ พบว่า ควรให้มีการผ่อนชำระค่าเทอมเพื่อลดภาระทางการเรียน ควรมีการจัดทำหนังสือในแต่ละรายวิชาสำหรับผู้สนใจเข้าศึกษาต่อ ด้านการดำเนินการของหลักสูตร พบว่า ควรมีการจัดอาจารย์ให้มีช่องทางการติดต่อประสานงาน และควรมีการส่งเสริมให้ผู้ที่สนใจศึกษาต่อมีช่องทางการติดต่อสื่อสาร ด้านทัศนคติต่อสาขาวิชาพุทธศาสตร์ พบว่า  ควรมีการประชาสัมพันธ์หลักสูตรอย่างต่อเนื่อง และควรมีการแนะแนวการศึกษาต่อ