ทัศนคติต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของทหาร: ศึกษากรณีกองพันทหารช่างที่ 8 กองพลทหารม้าที่ 1 จังหวัดเพชรบูรณ์

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. ศึกษาทัศนคติต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของทหารในกองพันทหารช่างที่ 8 กองพลทหารม้าที่ 1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ และ 2. เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อทัศนคติต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของทหารในกองพันทหารช่างที่ 8 กองพลทหารม้าที่ 1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจโดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ เครื่องมือในการวิจัยได้แก่แบบสอบถามเพื่อศึกษาประชากรทั้งหมดคือข้าราชการทหารที่สังกัดกองพันทหารช่างที่ 8 กองพลทหารม้าที่ 1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์จำนวน 103 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐาน โดใช้ค่า t-test และ One Way ANOVA โดยกำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการวิจัยพบว่า ทหารช่างมีทัศนคติต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองภาพรวมในระดับปานกลาง โดยมีทัศนคติต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองสูงที่สุด ส่วนทัศคติต่อความเท่าเทียมกันในสังคมอยู่ในระดับต่ำที่สุดส่วนปัจจัยที่มีผลต่อทัศนคติต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของทหารฯ คือ ปัจจัยด้านอายุ ระดับการศึกษา ระดับรายได้ ความสนใจทางการเมือง อุดมการณ์ประชาธิปไตย การรับสิทธิประโยชน์จากการเมือง และความรู้สึกสัมฤทธิผลทางการเมืองที่ต่างกัน จะมีทัศนคติต่อการส่วนร่วมทางการเมืองต่างกัน  อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนปัจจัยด้านสถานภาพสมรส ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน และสายการปฏิบัติงานที่ต่างกัน จะมีทัศนคติต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองไม่แตกต่างกัน ระดับการศึกษาส่งผลต่อการมีส่วนร่วมของทหารมากที่สุด