แนวทางการส่งเสริมคุณธรรมตามหลักทศพิธราชธรรมของผู้บริหารสถานศึกษา ในอำเภอโกรกพระ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพและหาแนวทางการส่งเสริมคุณธรรมตามหลักทศพิธราชธรรมของผู้บริหารสถานศึกษาในอำเภอโกรกพระ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 มีวิธีดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 2 ขั้นตอน คือ 1) การศึกษาสภาพคุณธรรมตามหลักทศพิธราชธรรม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ครูผู้สอน จำนวน 124 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามที่มีค่าความเที่ยงที่ .96 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2) หาแนวทางการเสริมสร้างคุณธรรมตามหลักทศพิธราชธรรมของผู้บริหารสถานศึกษา โดยการร่วมสนทนากลุ่มของผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 7 คน และนำข้อมูลที่ได้มาสังเคราะห์ด้วยเทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า สภาพคุณธรรมตามหลักทศพิธราชธรรมของผู้บริหารสถานศึกษาในอำเภอโกรกพระสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 โดยภาพรวม มีสภาพคุณธรรมตามหลักทศพิธราชธรรมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีสภาพคุณธรรมตามหลักทศพิธราชธรรมอยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ ด้านความเพียร อันดับรองลงมา ได้แก่ ด้านความไม่คลาดจากธรรม ด้านบริจาค ด้านศีล ด้านความไม่โกรธ ด้านทาน ด้านความอดทน ด้านความอ่อนโยน ด้านความไม่เบียดเบียน และสภาพคุณธรรมตามหลักทศพิธราชธรรมต่ำที่สุด คือ ด้านความซื่อตรงและ แนวทางการเสริมสร้างคุณธรรมตามหลักทศพิธราชธรรมของผู้บริหารสถานศึกษาในอำเภอโกรกพระสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 ดังนี้ 1) ด้านทาน ผู้บริหารส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปศึกษาหาความรู้ จัดส่งผู้ใต้บังคับบัญชาไปอบรมพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงาน จัดสรรงบประมาณในการพัฒนาตนเองของครูและบุคลากร สร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานร่วมกัน รู้จักอภัยเมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาทำผิด ให้การช่วยเหลือ และคำปรึกษาเกี่ยวกับการปฏิบัติงานแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความเต็มใจ และยินดีรับฟังปัญหาที่เกิดเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของบุคลากร 2) ด้านศีล ผู้บริหารมีความซื่อสัตย์สุจริตไม่เบียดเบียนทรัพย์สินส่วนรวมไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว รู้คุณค่าของทรัพยากร และจัดสรรให้เกิดประโยชน์แก่องค์กร ประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดโครงการและการจัดกิจกรรมการออกกำลังกาย ส่งเสริมสุขภาพและต้านยาเสพติดในโรงเรียน และสถานศึกษาจัดโครงการให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดชนิดต่างๆ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้อง อาทิ ครู ผู้ปกครอง และชุมชน มีความรู้ และร่วมกันป้องกันยาเสพติด 3) ด้านบริจาค บริหารมีความมุ่งมั่น และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมโดยอุทิศเวลาให้ทางราชการเสมอ ส่งเสริมให้สถานศึกษาจัดทำโครงการที่ปลูกฝังให้บุคลากรและนักเรียนเฟื้อเผื่อแผ่ มีความยินดีที่ได้เสียสละทรัพย์สิน เงินทอง ในสิ่งที่จำเป็นเพื่อองค์กรและส่วนรวมด้วยความเต็มใจ เป็นผู้นำในการดูแลช่วยเหลือบุคลากรหรือองค์กรที่ทำประโยชน์แก่สังคม และให้ความสงเคราะห์แก่ผู้ประสบภัยต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ และเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม 4) ด้านความซื่อตรง ผู้บริหารประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี โดยอุทิศเวลาให้ทางราชการอย่างเต็มที่ มีความตรงต่อเวลา ปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยพึงประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี และพัฒนาตน ให้มีคุณธรรม มี สุขภาพดี ทั้งกายและจิต รวมทั้งเพิ่มพูนความรู้ความสามารถในการบริหารงาน และบริหารสถานศึกษาด้วยความซื่อตรง ไม่ใช้อำนาจหน้าที่ในการแสวงหาประโยชน์จากทางราชการและบุคคลอื่นๆ 5) ด้านความอ่อนโยน ผู้บริหารเป็นบุคคลที่มีอัธยาศัยไมตรีที่ดีต่อเพื่อนร่วมงานและผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้เป็นที่ยอมรับนับถือของทุกคน มีบุคลิกภาพที่อ่อนโยน เป็นแบบอย่างที่ดีต่อบุคลากรและนักเรียน เปิดโอกาสให้ผู้ใต้บังคับบัญชาแสดงความคิดเห็น ตลอดจนร่วมกันตัดสินใจเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน รับฟังความคิดเห็น ปัญหา และร่วมกันแสดงความคิดเห็นในการแก้ปัญหากับผู้ร่วมงาน 6) ด้านความเพียร ผู้บริหารมีการพัฒนาศักยภาพตนเอง แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับหน่วยงานต่างๆ อย่าสม่ำเสมอ มุ่งมั่น อุตสาหะ ในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ย่อท้อในอุปสรรค เมื่อเกิดปัญหา ผู้บริหารหาแนวทางในการแก้ปัญหาและอุปสรรคให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี 7) ด้านความไม่โกรธ ผู้บริหารปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ใช้สติในการบริหารองค์กร เมื่อเกิดปัญหาหรือมีสิ่งที่จะกระตุ้นความโกรธ และเป็นกัลยาณมิตรต่อเพื่อนร่วมงานและผู้เกี่ยวข้อง 8) ด้านความไม่เบียดเบียน ผู้บริหารไม่ใช้อำนาจหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งก่อให้เกิดความทุกข์หรือความคับข้องใจต่อบุคลากรและบุคคลอื่นๆในชุมชน ให้การยกย่อง ชมเชย และแสดงความยินดีเมื่อผู้อื่นประสบความสำเร็จ และให้ความช่วยเหลือผู้ใต้บังคับบัญชา โดยให้การช่วยเหลือด้วยความเสมอภาค 9) ด้านความอดทน ผู้บริหารมีความอดทนต่อความยากลำบากในการปฏิบัติหน้าที่ และใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหาและเป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้ใต้บังคับบัญชา และส่งเสริมให้ครูและนักเรียนปฏิบัติหน้าที่ในส่วนรับผิดชอบของตนด้วยความอดทน และ 10) ด้านความไม่คลาดจากธรรม ผู้บริหารปฏิบัติตนตามแนวทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย วัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณี และส่งเสริมปลูกฝังให้บุคลากรและนักเรียนได้ปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม