ประสิทธิภาพการบริหารในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามหลักธรรมาภิบาล ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย

Main Article Content

ธรรศพงศ์ วงษ์สวัสดิ์ ธีเรก วิทยายุทธ บุญจริยา เกตุอ่อน
กิตติวัฒน์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ภัทราภรณ์ ไชยสาร พระครูสมุห์สมชัย นิสสโภ (ประกอบพรชัย)

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการบริหารในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามหลักธรรมาภิบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นที่มีต่อการบริหารการจัดซื้อจัดจ้างและประสิทธิภาพการบริหารในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามหลักธรรมาภิบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล 3) เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามหลักธรรมาภิบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำแนกตามการบริหารการจัดซื้อจัดจ้าง


กลุ่มเป้าหมายคือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย จำนวน 13 แห่ง โดยมีประชากร ได้แก่ (1) นายกเทศมตรีเทศบาลตำบล รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบล และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 39 คน (2) ผู้อำนวยการกองคลังและบุคลากรงานพัสดุ จำนวน 39 คน (3) กรรมการรับและเปิดซองสอบราคาจากภาคประชาชน จำนวน 65 คน รวมกลุ่มตัวอย่าง 143 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถาม มีลักษณะคำถามปลายเปิด สถิติที่ใช้วิเคราะห์ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมติฐานด้วยค่าที (T-test) ค่าเอฟ (F-Test) วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One–way ANOVA) และการทดสอบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีการ LSD


ผลการวิจัยพบว่า


ประสิทธิภาพการบริหารในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามหลักธรรมาภิบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ผลการเปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลที่ต่างกัน ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษาและประสบการณ์ในการทำงาน มีความคิดเห็นต่อการบริหารการจัดซื้อจัดจ้างและประสิทธิภาพการบริหารในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามหลักธรรมาภิบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอศรีสำโรง แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และผลการเปรียบเทียบการบริหารการจัดซื้อจัดจ้างมีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพการบริหารในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามหลักธรรมาภิบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05


การตรวจสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ ด้วยวิธีการ LSD พบว่า ด้านหลักความรับผิดชอบมีความแตกต่างกันตามวิธีการบริหารการจัดจ้าง เป็นเพราะระบบงานมีความซับซ้อนหลายขั้นตอน มีระบบการทำงานโดยอาศัยการมีส่วนร่วมและความรับผิดชอบจากหลายฝ่าย และยังมีหลักเกณฑ์การดำเนินงานตามประกาศการจัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่ ทำให้การดำเนินงานยังไม่คล่องตัว และยังพบว่า ด้านหลักความคุ้มค่ามีความแตกต่างกันด้วยวิธีการบริหารงานพัสดุ เพราะการพัฒนาศักยภาพและทักษะในการปฏิบัติงานต้องอาศัยองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญเพื่อให้เกิดความคุ้มค่า การเปิดเผยข้อมูลด้วยความโปร่งใส และยังเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียมีการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย (Research Articles)