พฤติกรรมการใช้จ่ายเงินของนักศึกษาพยาบาล:กรณีศึกษาวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สวรรค์ประชารักษ์ นครสวรรค์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะศึกษาพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินของนักศึกษา โดยครอบคลุมในเรื่องรายรับ-รายจ่ายประจำเดือน การใช้จ่ายเงินด้านการเรียน อาหาร ค่าใช้จ่ายส่วนตัวและนันทนาการ ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินระหว่างนักศึกษาที่ได้รับทุนการศึกษาและไม่ได้รับทุนการศึกษา กลุ่มตัวอย่างคือนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตร์บัณฑิต จำนวน 258 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ chi square test
ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างได้รับเงินจากผู้ปกครองน้อยกว่า 3,000 บาทต่อเดือน ใช้โทรศัพท์มือถือ ราคาน้อยกว่า 10,000.- บาท มีโน้ตบุ้ค ราคาอยู่ในช่วง 10,000 – 19,000 บาท มีค่าใช้จ่ายด้านการเรียน น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1,000 บาทต่อเดือน ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหาร 2,001-3,000 บาทต่อเดือน ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 1,001 - 2,000 บาทต่อเดือน และค่าใช้จ่ายด้านนันทนาการ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1,000 บาทต่อเดือน พฤติกรรมการใช้จ่ายเงินด้านค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหารและค่าใช้จ่ายส่วนตัวมีความสัมพันธ์กับการได้รับทุนการศึกษาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยสัดส่วนของกลุ่มที่ได้รับทุนการศึกษาจะสูงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับทุนการศึกษา และพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินของนักศึกษาแต่ละชั้นปีมีความสัมพันธ์กับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียนและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหารอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยค่าใช้จ่ายด้านการเรียนของกลุ่มตัวอย่างที่อยู่ชั้นปีที่ 3 มีมากที่สุด รองลงมาคือชั้นปีที่ 4และชั้นปีที่ 1 และชั้นปีที่ 2 ตามลำดับ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหารของกลุ่มตัวอย่างทุกชั้นปีไม่แตกต่างกัน กลุ่มตัวอย่างแก้ไขปัญหาค่าใช้จ่ายไม่พอใช้โดยการขอเพิ่มจากผู้ปกครอง ขอยืมจากญาติ ขอยืมเพื่อน อดอาหารบางมื้อ ขายสินค้าออนไลน์ ละเว้นการซื้อของที่ไม่จำเป็น และกู้เงิน
ฉะนั้นการทำความเข้าใจกับพฤติกรรมการใช้จ่ายของนักศึกษาทั้งได้รับทุนการศึกษาและไม่ได้รับทุนการศึกษา สามารถใช้เป็นแนวทางในการวางแผนการใช้จ่ายของนักศึกษา และการสร้างเสริมคุณลักษณะของนักศึกษาเรื่องความพอเพียง และการใช้จ่ายอย่างสมเหตุผล