การพัฒนาตัวบ่งชี้การบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิผลของโรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ THE DEVELOPMENT OF EFFICIENCY ACADEMIC
Main Article Content
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มุ่งศึกษาตัวบ่งชี้การบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิผล ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัยดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาตัวบ่งชี้การบริหารงานวิชาการที่มี และ 2) เพื่อทดสอบความสอดคล้องของโมเดลโครงสร้างตัวบ่งชี้การบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิผลกับข้อมูลเชิงประจักษ์ การดำเนินการวิจัยมี 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนการจัดทำตัวบ่งชี้เชิงทฤษฎีโดยการวิเคราะห์เอกสาร และสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 16 คน แล้วรวบรวมสังเคราะห์เป็นตัวบ่งชี้องค์ประกอบของการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิผของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ และขั้นตอนการทดสอบความสอดคล้องของโมเดลโครงสร้างการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนเหล่านั้น กับข้อมูลเชิงประจักษ์ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยเป็นผู้บริหารและครูของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจำนวน 1200 คน จาก 400 โรงเรียน ซึ่งได้มาจากการสุ่ม แบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์และแบบสอบถามความเหมาะสมของตัวบ่งชี้ มีลักษณะเป็นแบบประมาณค่า 5 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ เพื่อหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสถิติเพื่อพิจารณาความเหมาะสมของข้อมูลที่จะมาวิเคราะห์องค์ประกอบ คือ ค่า Bartlett test of Sphericityและค่า Measure of Sampling Adequacy (MSA)และใช้โปรแกรม LISREL 8.52 วิเคราะห์องค์ประกอบและตรวจสอบความสอดคล้องกลมกลืนของโมเดลที่พัฒนากับข้อมูลเชิงประจักษ์
ผลการวิจัยพบว่า
1)ได้ตัวบ่งชี้การบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิผล ของโรงเรียน จำแนกได้เป็น 5 องค์ประกอบหลัก 21 องค์ประกอบย่อย 93ตัวบ่งชี้ ได้แก่ ด้านการบริหารหลักสูตรสถานศึกษา มีจำนวน 5 องค์ประกอบย่อย 23 ตัวบ่งชี้ ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ มีจำนวน 5 องค์ประกอบย่อย 23 ตัวบ่งชี้ด้านกระบวนการนิเทศภายใน มีจำนวน 4 องค์ประกอบย่อย 20 ตัวบ่งชี้ด้านกระบวนการประกันคุณภาพภายใน มีจำนวน 4 องค์ประกอบย่อย 15 ตัวบ่งชี้ และด้านการประเมินผลการเรียนรู้ มีจำนวน 3 องค์ประกอบย่อย 12 ตัวบ่งชี้
2)ผลการตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันของตัวบ่งชี้ พิจารณาจากค่าสถิติดังนี้ คือ = 14.22 df =69 p-value = 1.00 / df =0.02608 GFI=1.00 AGFI= 1.00 CFI= 1.00 Standardized RMR= 0.018 RMSEA= 0.00 และ Critical N =2793.35 ค่า Largest Standardized Residual = 1.67 โมเดลที่พัฒนาขึ้นมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์เป็นไปตามสมมติฐาน
This study was designed to study the indicators of the efficient academic administration in schools under the Secondary Educational Service Area Offices, the Office of the Basic Education Commission, ministry of Education which the research purposes were : 1) to develop the indicators of the efficient academic administration in the schools, and 2) to examine the goodness of fit for the structural model indicators with the empirical data.
The research methodology was divided into two phases. The first phases was documentary analysis and interviewed with 16 experts then collected the data and synthesized them for the indicators of the efficient academic affair administration . The second phase was the examining the structural model’s goodness of fit with the empirical data.
The multi-stage random sampling was applied for 1,200 principals and teachers drawn from 400 schools. The research instruments for data collection consisted of an interview and a 5-point rating scale questionnaire. The quantitative data were analyzed to obtain mean, standard deviation then Bartlett test of Sphericity and measure of sampling adequacy (MSA) were used for the appropriateness of the data for the factor analysis. LISREL was also used for the factor analysis and checking the consistency of developed model with the empirical data.
The findings of this study were summarized as follows :
1) The indicators of the efficient academic affair administration were evidently classified into 5 core factors, 21 sub factors and 93 indicators. They are the school curriculum management with 5 sub factors and 23 indicators ; the learning process development with 5 sub factors and 23 indicators ; the personalized supervision with 4 sub factors and 20 indicators ; the quality assurance with 4 sub factors and 15 indicators and the last one is the learning evaluation with 3 sub factors and 12 indicators.
2) The goodness of fit test of the indicators’ confirmatory factor analysis model found the developed models were fit to the empirical data following the hypotheses and based on the statistics as follows : = 14.22, df = 69, p-value = 1.00, /df =0 .02608, GFI =1 .00, AGFI = 1.00 , CFI = 1.00, Standardized RMR = 0.018, RMSEA = 0.00 Critical N = 2793.35 and Largest Standardized Residual = 1.67.