ทักษะความรู้ความชำนาญของผู้มีหน้าที่เบิกจ่ายงบประมาณและการบริหารจัดการองค์กร ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการเบิกจ่ายงบประมาณของสำนักงานอัยการสูงสุด

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาทักษะความรู้ความชำนาญของผู้มีหน้าที่เบิกจ่ายงบประมาณที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการเบิกจ่ายงบประมาณของสำนักงานอัยการสูงสุด และ 2. เพื่อศึกษาการบริหารจัดการองค์กรที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการเบิกจ่ายงบประมาณของสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นการวิจัยแบบเชิงปริมาณ มีเครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสอบถาม โดยมีกลุ่มตัวอย่าง คือ นักวิชาการเงินและบัญชี สำนักงานอัยการสูงสุด ของประเทศไทย จำนวน 202 คน ที่มาจากการคำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้สูตรทาโร่ ยามาเน่ (1973) ที่ระดับความคลาดเคลื่อน 0.05 แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากแบบสอบถามมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ประกอบด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์สถิติการถดถอยเชิงพหุคูณทดสอบสมมติฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) ทักษะความรู้ความชำนาญของผู้มีหน้าที่เบิกจ่ายงบประมาณ ด้านความรู้ความชำนาญด้านงานการเงินและบัญชี ด้านความรู้ความเข้าใจในระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน ด้านความเข้าใจในกระบวนการปฏิบัติงาน และด้านความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ส่งผลเชิงบวกต่อประสิทธิภาพการเบิกจ่ายงบประมาณของสำนักงานอัยการสูงสุด ด้านความถูกต้องของการเบิกจ่าย ด้านความรวดเร็วทันเหตุการณ์ และด้านการเบิกจ่ายเป็นไปตามเป้าหมาย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และ 2) การบริหารจัดการองค์กร ด้านความชัดเจนของโครงสร้างองค์กรและอำนาจอนุมัติ ด้านความชัดเจนของนโยบายการบริหารงาน ด้านกระบวนการเบิกจ่ายงบประมาณที่เหมาะสม ด้านการอบรมบุคลากรเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณ และด้านการติดตามประเมินผลการใช้จ่ายงบประมาณ ส่งผลเชิงบวกต่อประสิทธิภาพการเบิกจ่ายงบประมาณของสำนักงานอัยการสูงสุด ด้านความถูกต้องของการเบิกจ่าย ด้านความรวดเร็วทันเหตุการณ์ ด้านการเบิกจ่ายเป็นไปตามเป้าหมาย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ยกเว้นด้านการติดตามประเมินผลการใช้จ่ายงบประมาณ ไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการเบิกจ่ายงบประมาณของสำนักงานอัยการสูงสุด ด้านความรวดเร็วทันเหตุการณ์