“ผี” เครื่องมือในการจัดการปัญหาของชุมชนบ้านเมืองบัว ตำบลเมืองบัว อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด
คำสำคัญ:
ความเชื่อเรื่องผี, การต่อรองอำนาจ, พิธีกรรมบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาความเชื่อเรื่องผีของคนในชุมชนตั้งแต่การตั้งชุมชนบ้านเมืองบัว พ.ศ. 2416-2565 และ 2. เพื่อศึกษาผีในฐานะเครื่องมือในการจัดการปัญหาในชุมชนบ้านเมืองบัว เป็นการวิจัยแบบเชิงคุณภาพ มีเครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย แบบสัมภาษณ์ และแบบสังเกต โดยมีกลุ่มเป้าหมายในการวิจัย คือ จำนวน 17 คน ที่มาจากการเลือกแบบเจาะจงทั้งหมด แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากแบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต และเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาวิเคราะห์ในเชิงเนื้อหาผลการวิจัยพบว่า 1) ชุมชนบ้านเมืองบัวมีความเชื่อเรื่องผีมาตั้งแต่บรรพบุรุษซึ่งเป็นคนในกลุ่มวัฒนธรรมลาวที่อพยพเข้ามาในพื้นที่ แรกเริ่มการตั้งชุมชนมีผู้คนอพยพเข้ามาในช่วงปีพ.ศ. 2416 โดยมีการนำความเชื่อเรื่องผีเข้ามาใช้โดยเฉพาะ ผีปู่ตา ในช่วงตั้งชุมชนแรกเริ่มปรากฏผีที่คอยปกปักษ์รักษาพื้นที่ของชุมชนและผู้คนทั้งหมด 3 ตน คือ เจ้าปู่เมืองเจียม เจ้าปู่ขุนเมืองและเจ้าปู่อุปฮาดเหง้าแสนเมือง ผีทั้ง 3 ตน มีความเกี่ยวข้องกันในทางเครือญาติและระดับชั้นในการปกครองตามรูปแบบของระบบอาญา 4 การตั้งศาลในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของผู้คนในยุดแรกเริ่ม และ 2) ความเชื่อเรื่องผี มีการใช้ผีในฐานะเครื่องมือการจัดการปัญหาของชุมชนในระดับต่าง ๆ เช่น ความเชื่อเรื่องผีในฐานะเครื่องมือในการจัดการพื้นที่อยู่อาศัยในเหตุการณ์หลวงปู่ชม พ.ศ. 2485 ได้ใช้ผีในการดูแลพื้นที่และทรัพยากรหลังการขยายตัวของชุมชน ความเชื่อเรื่องผีในฐานะผู้รักษาสมดุลทางเศรษฐกิจของชุมชน ช่วงทศวรรษที่ 2530 เมื่อชุมชนบ้านเมืองบัวเริ่มเข้าสู่ระบบการผลิตแบบใหม่ส่งผลให้ภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น กลุ่มผู้เลี้ยงวัวในชุมชนจึงได้ใช้ความเชื่อเรื่องผีเจ้าพ่อศรีนครเตามาจัดการกับปัญหาโดยใช้พิธีกรรมเลี้ยงผีเพื่อให้ผีดูแลรักษาฝูงวัวที่ปล่อยไว้ตามทุ่ง ทำให้มีเวลาในการประกอบอาชีพเสริมเพื่อหารายได้เจือจุนครอบครัว
