รูปแบบการบรรเลงวงกลองยาวอีสาน คณะลูกพระคเณศสาเกตนคร
คำสำคัญ:
รูปแบบการบรรเลง, วงกลองยาวอีสาน, คณะลูกพระคเณศสาเกตนครบทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาพัฒนาการของวงกลองยาวอีสาน คณะลูกพระคเณศสาเกตนคร และ 2. เพื่อศึกษารูปแบบการบรรเลงวงกลองยาวอีสาน คณะลูกพระคเณศสาเกตนคร เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสำรวจ แบบสังเกต และแบบสัมภาษณ์ โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ วงกลองยาวอีสาน คณะลูกพระคเณศสาเกตนคร และผู้ชมการบรรเลง จำนวน 15 คน ที่มาจากการเลือกแบบเจาะจง แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากเครื่องมือการวิจัยและเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาวิเคราะห์ในเชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) พัฒนาการของวงกลองยาวอีสาน คณะลูกพระคเณศสาเกตนคร เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2556 ก่อตั้งโดยนักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาศิลปะดนตรีและการแสดงพื้นบ้าน วิทยาลัยนาฏศิลปร้อยเอ็ด ปัจจุบันมี นายเมธาอาชว์ บุญลาภ เป็นหัวหน้าคณะ ตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ 30 หมู่ 2 บ้านดงยาง ตำบลสีแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด แบ่งออกเป็น 3 ยุค ได้แก่ ยุคแรกเริ่ม เป็นยุคที่เน้นการบรรเลงจังหวะกลองโบราณ และจังหวะกลองยาวประยุกต์ เพื่อแห่ในงานพิธีมงคลต่าง ๆ ยุคที่สอง ยุคการเปลี่ยนแปลง โดยจะเน้นความร่วมสมัยมากขึ้น โดยการประยุกต์นำเครื่องดนตรีสากลเข้ามาร่วมบรรเลง ยุคที่สาม ยุคปัจจุบัน เป็นการผสมผสานของวงกลองยาวแบบดั้งเดิม แบบประยุกต์ และแบบร่วมสมัย โดยเน้นทักษะของ ผู้บรรเลงและคุณภาพของเสียงกลองยาวมากขึ้น และ 2) รูปแบบการบรรเลงกลองยาวอีสาน คณะลูกพระคเณศสาเกตนคร แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบการบรรเลงจังหวะกลองยาวโบราณ เป็นการบรรเลงที่คงความเป็นเอกลักษณ์ ทั้งจังหวะ ทำนอง และท่วงท่าลีลาในการบรรเลง รูปแบบการแปรแถว รูปแบบการต่อตัว ยังคงอนุรักษ์แบบดั้งเดิมที่ได้รับการถ่ายทอดจากต้นแบบครูบาอาจารย์ ที่สร้างและสืบทอดต่อกันมา รูปแบบการบรรเลงจังหวะกลองยาวประยุกต์ เป็นการผสมผสานของวงกลองยาวแบบดั้งเดิม แบบประยุกต์ และแบบร่วมสมัย อีกทั้งยังเพิ่มนักร้องแนวลูกทุ่งหมอลำเข้ามาขับกล่อมผสมผสานกับการบรรเลงกลองยาว เพื่อทำให้เกิดอรรถรสและมีความน่าสนใจต่อผู้ที่มารับชมรับฟังมากขึ้น
