การตัดสินใจเข้าศึกษาต่อหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในช่วงโควิด-19

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อวิเคราะห์การตัดสินใจเข้าศึกษาต่อหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต และ 2. เพื่อเปรียบเทียบการตัดสินใจเข้าศึกษาต่อหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิตจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล เป็นการวิจัยแบบเชิงปริมาณ มีเครื่องมือการวิจัย คือ แบบสอบถาม มีลักษณะประมาณค่า 5 ระดับ และวิเคราะห์หาค่าสัมประสิทธ์อัลฟ่าของครอนบาร์ค ได้ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ .943 โดยมีกลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จำนวน 70 คน ที่มาจากการใช้ตารางเครซี่และมอร์แกน และทำการสุ่มตัวอย่างแบบง่ายโดยการจับสลาก แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากแบบสอบถามมาวิเคราะห์ในสถิติเชิงพรรณนา ประกอบด้วย ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และทดสอบสมมติฐานด้วยการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า 1) ภาพรวมนักศึกษาตัดสินใจเข้าศึกษาต่อหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต ด้วยเหตุผลของหลักสูตร เป็นอันดับแรก (x̅= 4.64) รองลงมา ได้แก่ ด้านความภูมิใจ (x̅= 4.50) ด้านภาพลักษณ์ (x̅= 4.48) ด้านความคาดหวังในอนาคต (x̅= 4.43) ด้านเศรษฐกิจและสังคม (x̅= 4.09) และด้านการประชาสัมพันธ์ (x̅= 3.46) ตามลำดับ และ 2) เมื่อเปรียบเทียบการตัดสินใจเข้าศึกษาต่อหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิตจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ รายได้ สถานภาพ และอาชีพต่างกันการตัดสินใจเข้าศึกษาต่อหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิตไม่แตกต่างกัน (t=.973, F=.391, F=.424, F=.353, F=1.076)