ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลในการบริหารหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
คำสำคัญ:
ประสิทธิผล, การบริหารหลักสูตร, รัฐประศาสนศาสตร์บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาระดับประสิทธิผลในการบริหารหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ 2. เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของการบริหารหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ และ 3. เพื่อพัฒนาแนวทางและกลยุทธ์ในการเพิ่มประสิทธิผลของการบริหารงานหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ เป็นการวิจัยแบบเชิงปริมาณ มีเครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสอบถาม โดยมีกลุ่มตัวอย่าง คือนักศึกษาในหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ จำนวน 204 คน ที่มาจากการคำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้สูตรของทาโร่ ยามาเน่ ที่ระดับความคลาดเคลื่อน 0.05 ที่มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ แล้วนำข้อมูล ที่รวบรวมได้จากแบบสอบถามมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ประกอบด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน คือ การวิเคราะห์ถดถอยแบบพหุ (Multiple Regression Analysis: MRA) ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับประสิทธิผลของการบริหารหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก (x̅= 4.27) 2) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของการบริหารหลักสูตร ได้แก่ วัตถุประสงค์และเป้าหมายของหลักสูตรที่มีความสัมพันธ์แบบพหุคูณกับประสิทธิผลของการบริหารหลักสูตร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณ (R) เท่ากับ .883 และสามารถพยากรณ์ประสิทธิผลของการบริหารหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต (R2) ได้ร้อยละ 78 โดยมีความคลาดเคลื่อนมาตรฐานในการพยากรณ์ เท่ากับ ± .26 เมื่อพิจารณาค่าสัมประสิทธิ์การถดถอยของตัวพยากรณ์ พบว่า วัตถุประสงค์และเป้าหมายของหลักสูตรสามารถพยากรณ์ประสิทธิผลของการบริหารหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิตได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีค่าสัมประสิทธิ์การถดถอยในรูปคะแนนดิบและค่าสัมประสิทธิ์การถดถอยในรูปคะแนนมาตรฐาน (b, β) เท่ากับ .348 กับ .353 และ 3) กลยุทธ์ในการเพิ่มประสิทธิผลของการบริหารงานหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพของอาจารย์ผู้สอน และพัฒนาความชัดเจนของวัตถุประสงค์และเป้าหมายของหลักสูตรให้มีความเหมาะสมและสมบูรณ์ยิ่งขึ้นต่อไป
